ญาตินำร่างหญิงตายทั้งกลมฌาปนกิจแล้ว ผู้ว่าฯ ยันทีมช่วยเหลือเสียใจช่วยไม่ทัน

ตาก - ผู้ว่าฯ เผยทีมช่วยเหลือทุกคนเสียใจช่วยหญิงท้องแก่ใกล้คลอดไม่ทัน แม้นักบินตัดสินใจนำ ฮ.ฝ่าเมฆฝนจากเชียงใหม่ พร้อมมอบเงินช่วย 2 หมื่นบาทให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาครอบครัวอีกทาง ขณะที่ญาตินำร่างไร้วิญญาณทำพิธีฌาปนกิจที่สุสานข้างโรงพยาบาลแล้ว

วันนี้ (5 ส.ค.) นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า กรณีที่นางฮิจ่า เวียงขันแก้ว อายุ 34 ปี ชาวบ้านแม่อมยะ ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง ท้องแก่และตกเลือดจนเสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ แม้ว่าทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลท่าทองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 344 ท่าสองยาง และฝ่ายปกครอง จะประสานนำเฮลิคอปเตอร์จากหน่วยบินตำรวจ จ.เชียงใหม่ มาช่วยแล้วก็ยังไม่ทันการณ์ นับเป็นความสูญเสียที่ทีมช่วยเหลือทุกคนต่างเสียใจกันหมด

เนื่องจากทุกฝ่ายต่างทุ่มเททั้งกำลัง ความสามารถ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทุกด้าน เพื่อจะนำตัวนางฮิจ่าที่กำลังป่วยสาหัสออกมาจากพื้นที่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่กลางหุบเขา แต่ทางสัญจรขณะนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทางปิดเพราะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเกิดดินสไลด์ปิดเส้นทางสัญจรทางบก จนต้องประสานขอเฮลิคอปเตอร์ จากตำรวจตระเวนชายแดน โดยกองบินตำรวจนำเครื่องขึ้นจากเชียงใหม่เพื่อมารับตัวนางฮิจ่า ซึ่งก็ต้องขอบคุณความกล้าหาญของนักบินที่ฉวยจังหวะฟ้าเปิดเพียงเล็กน้อยนำเครื่องบินฝ่าเมฆฝนท่ามกลางทัศนวิสัยต่ำเพื่อเป้าหมายจะช่วยเหลือประชาชนที่กำลังรอความช่วยเหลือครั้งนี้ รวมถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเทกับการช่วยเหลือนางฮิจ่าจนสามารถนำส่งถึงโรงพยาบาลท่าสองยางเพื่อทำการช่วยชีวิต แต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับความช่วยเหลือนั้น ตนได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนางฮิจ่าจำนวน 20,000 บาท และมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าไปดูแลด้านความเป็นอยู่ หรือแนวทางช่วยเหลืออื่นๆ แก่ครอบครัว ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก และทางโรงพยาบาลท่าสองยางก็จะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดูแลสุขภาพจิตของญาติ และสามี รวมทั้งลูกๆ ที่เหลืออีก 4 คน

ส่วนศพของนางฮิจ่านั้นทางญาติได้ทำการฌาปนกิจบริเวณฌาปนสถาน ข้างโรงพยาบาลท่าสองยาง เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมาแล้ว เนื่องจากไม่สามารถนำศพกลับภูมิลำเนาได้เพราะเส้นทางถูกตัดขาด