xs
xsm
sm
md
lg

สุดเศร้า! ฝนตก-ดินถล่ม ฮ.บินแหวกนรกช่วยหญิงท้องแก่ไม่ทันตกเลือดตายทั้งกลม(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตาก - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาครอบครัวหญิงท้องแก่ 9 เดือนชาวท่าสองยาง หลังตกเลือดตั้งแต่ตี 2 เศษ 4 สิงหาฯ แต่เจอปัญหาฝนตกหนัก-ดินสไลด์ปิดถนนไปโรงพยาบาลไม่ได้ แม้ประสานขอ ฮ.ตำรวจ “บินแหวกนรก” ช่วยเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตได้ทั้งแม่และลูก



วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายปกครองจังหวัดตาก, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวนางฮิจ่า เวียงขันแก้ว อายุ 34 ปี ชาวบ้านแม่อมยะ ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ที่เสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง หลังเจ็บท้องคลอด แต่เส้นทางถูกปิดเนื่องจากปัญหาฝนตกหนักดินสไลด์ปิดเส้นทาง ทำให้การเดินทางไปยังสถานพยาบาลทางรถยนต์ไม่สามารถทำได้

โดยเหตุการณ์ที่เศร้าสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา นางฮิจ่ามีอาการตกเลือดหนักตั้งแต่ช่วง 02.00 น. วันที่ 4 ส.ค. หมอพื้นบ้านไม่สามารถทำคลอดได้ เพราะเด็กมีภาวะผิดปกติ จนเวลา 09.00 น. สามีจึงแจ้งประสานความช่วยเหลือจากครู ตชด. โรงเรียนบ้านแม่อมยะ ให้การรักษาเบื้องต้น และประสานกองบังคับการ ตชด.344 เพื่อส่งต่อคนไข้

ต่อมาได้มีการประสานขอเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ค่ายพระเจ้าตาก นำเฮลิคอปเตอร์จากหน่วยบินตำรวจจังหวัดเชียงใหม่เพื่อไปรับนางฮิจ่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขาสูงทุรกันดาร และเกิดฝนตกหนัก ทำให้การสัญจรทางบกเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเนื่องจากนางฮิจ่าตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน เกิดอาการตกเลือด ช็อก

ทางแพทย์ประจำตำบลได้ประสานขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลท่าสองยาง พร้อมๆ กับขอการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จาก ตชด.เพื่อบินไปรับตัวนั้น เมื่อทีมช่วยเหลือไปถึงพบว่าเด็กในครรภ์เสียชีวิตแล้ว ระหว่างนั้นทางทีมแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่และโรงพยาบาลได้ประสานงานกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาดังกล่าวฝนตกหนัก ฟ้าปิด ไม่สามารถทำการบินได้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.30 น. นักบินเห็นฟ้าเปิดจึงทำการบิน แม้จะเสี่ยงอันตรายมากจนเรียกกันในกลุ่มนักบินว่า “บินแหวกนรก” ก็ตาม ซึ่งทาง ฮ.ไปรับผู้ป่วยโดยไม่ได้มารับทีมพยาบาล แต่ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์อาการกันตลอด โดยพบว่าผู้ป่วยเริ่มสับสนกระสับกระส่ายชีพจรเต้นช้าลง จึงส่งทีมแพทย์พยาบาลเตรียมเครื่องมือช่วยชีวิตทั้งแม่ลูกออกสมทบ

กระทั่งเวลา 13.30 น. ฮ.ถึงสนามบิน ตชด.344 พบว่าคลำชีพจรไม่ได้แล้ว ทีมแพทย์ฉุกเฉินจึงใส่ท่อช่วยหายใจทำการช่วยฟื้นคืนชีพ ประมาณ 10 นาทีจึงนำส่งโรงพยาบาลท่าสองยางเพื่อทำการยื้อชีวิต และทำการกระตุ้นไฟฟ้าถึง 3 ครั้ง จนกระทั่งเวลา 16.52 น. นางฮิจ่าได้เสียชีวิตตามลูกไปอีก 1 ชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของทีมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ลุ้นระทึกในการช่วยเหลือครั้งนี้ รวมระยะเวลาในการช่วยฟื้นคืนชีพ 3 ชั่วโมง 17 นาที

รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมแพทย์ และพยาบาลแจ้งว่าคนไข้มีอาการช็อกหัวใจหยุดเต้นมาก่อนลงจาก ฮ.แล้ว ทางแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่พยาบาลได้ทำการปั๊มหัวใจจนหัวใจกลับมาเต้นอีกครั้งหนึ่ง

แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลก็ระดมการรักษาแบบเคสช่วยกู้ชีพขั้นสูง โดยฉีดทั้งยากระตุ้นหัวใจ และให้เลือด รวมทั้งใช้อุปกรณ์ช็อตไฟฟ้า แต่คนไข้มีอาการหนักเกินไปก่อนจะถึงมือแพทย์เนื่องจากเสียเลือดมากจนทำให้เกิดภาวะช็อกร่างกายขาดเลือด ถึงแม้จะคืนชีพจรแต่ความดันร่างกายก็ต่ำจนไม่สามารถวัดความดันในร่างกายของผู้ป่วยได้สุดท้ายเสียชีวิตทั้งแม่ และลูกในท้อง โดยลูกที่อยู่ในท้องได้เสียชีวิตไปก่อน ถ้าหากมาถึงเร็วกว่านี้ก็จะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที แต่อย่างไรก็ตามถือว่าทุกฝ่ายได้ทำการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว




กำลังโหลดความคิดเห็น