เชียงราย - วันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันทำให้แหล่งท่องเที่ยว และตลาดชายแดนเชียงราย-แม่สายคึกคัก คาดมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านบาท
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ในช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันอาสาฬหบูชา จนถึงวันเสาร์-อาทิตย์ (30 ก.ค.-2 ส.ค.) พบว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้กลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างทันตาเห็น โดยพบว่าที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-พม่า อ.แม่สาย มียานพาหนะหลากหลายชนิดของทั้งประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนชายแดนทำให้การจราจรค่อนข้างคึกคัก
ต่างจากรอบหลายเดือนที่่ผ่านมาบรรยากาศดูซบเซา ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวตลาดชายแดนทั้งฝั่งไทย และข้ามไปยังตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ทำให้ช่องทางขาออกตรงด่านพรมแดนค่อนข้างแออัดมากกว่าเดิม และคาดการณ์กันว่าจะทำให้มีเงินสะพัดที่ชายแดนวันละกว่า 10 ล้านบาท
โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงให้ความนิยมเดินทางไปดูบรรยากาศชายแดน และจับจ่ายซื้อสินค้าราคาถูกจากประเทศจีน สินค้าแปลกใหม่ แผ่นวีซีดี ดีวีดีของภาพยนตร์ใหม่ที่กำลังเข้าฉายซึ่งหาซื้อได้ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่บางส่วนเดินทางไปถึงเจดีย์ชเวดากองจำลอง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 2-3 กิโลเมตร และอนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ในอดีตของพม่าอีกด้วย
ทั้งนี้ นอกจากตลาดการค้าชายแดนแล้วพบว่า สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ดอยตุง สามเหลี่ยมทองคำ ฯลฯ ก็มีนักท่องเที่ยวไปเยือนเป็นจำนวนมากขึ้นเช่นกัน แม้ว่าสภาพอากาศจะครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดทั้งวัน และมักมีฝนตกทุกช่วงเย็นเป็นต้นไป
ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า ประธานสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-พม่า สาขาเชียงราย เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้เริ่มต้นด้วยการที่มีผู้คนเดินทางไปเยือนตลาดการค้าชายแดนเป็นจำนวนมาก แตกต่างจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีสภาพที่ซบเซาลงเพราะหลากหลายปัญหา และไม่ใช่ฤดุท่องเที่ยว ทั้งนี้ ยอมรับว่าจากการที่มีจำนวนผู้คนมากขึ้นในช่วงนี้ได้ทำให้สภาพเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นอย่างมาก