สุรินทร์ - โอละพ่อ! พบแล้ว สาว 28 ปีหายตัวในป่า อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ที่แท้น้อยใจแม่แอบหนีไปอยู่กับเพื่อนที่กรุงเทพฯ แต่หลอกแม่ว่าเข้าไปเก็บเห็ดในป่า ร้อนเจ้าหน้าที่กว่า 50 นายระดมปูพรมตามหาในป่ากว่า 5,000 ไร่ เป็นเวลา 2 คืน
หลังจากนางสาวจิตราพรรณ เศรษฐาวัฒนา หรือ เจี๊ยบ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.9 บ.หนองซุง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้หายตัวไป หลังบอกญาติว่าจะเข้าป่าสาธารณประโยชน์บ้านตาเกียด-บ้านหนองซุง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท เข้าไปเก็บเห็ดในป่าดังกล่าวซึ่งเป็นผืนป่าสาธารณประโยชน์ขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 5,400 ไร่ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ค. 58 ที่ผ่านมาก่อนจะหายตัวไม่กลับบ้าน จนกระทั่งแม่และญาติพี่น้องเป็นห่วงเกรงจะได้รับอันตราย ต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาทขอความร่วมมือจากอาสากู้ภัย กู้ชีพจาก 6 ตำบล จำนวน 50 คน ช่วยกันออกตามหาตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (26 ก.ค. 58)
ล่าสุดวันนี้ (27 ก.ค. 58) เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. นางสาวจิตราพรรณได้ใช้เบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนโทร.มาบอกนายศักดา สุรศร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองซุง ว่าปลอดภัยดี ไม่ได้เข้าป่าแต่อย่างใด ตนมาอยู่กับเพื่อนที่เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เพราะน้อยใจแม่คือนางสวิง จิตรงาม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.9 บ.หนองซุง ต.เชื้อเพลิง หลังถูกรถยนต์ชนรถจักรยานล้มหัวฟาดพื้นต้องรักษาตัวหมดเงินหลายหมื่นบาท แถมตนยังต้องออกจากงานโรงงานที่กรุงเทพฯ เพื่อมาดูแลแม่กว่า 1 เดือนจนตกงาน
แต่แม่กลับไปเรียกเงินค่าบาดเจ็บและค่ารักษาพยาบาลทำขวัญต่างๆ แค่ 1 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าน้อยไป จึงน้อยใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยแกล้งบอกทุกคนในบ้านว่าจะเข้าป่าไปหาเก็บเห็ด แต่ตั้งใจหนีออกจากบ้านโดยไม่บอกใคร ก่อนที่จะปิดเครื่องโทรศัพท์และยังติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้ แม่และญาติพี่น้องรวมทั้งชาวบ้านถึงกับดีใจที่นางสาวจิตราพรรณปลอดภัยดี ส่วนนายวัชระพล เศรษฐาวัฒนา สามีของนางสาวจิตราพรรณ หลังทราบข่าวจึงเดินทางไปถอนแจ้งความที่ สภ.ปราสาททันที
นางสวิง จิตรงาม อายุ 58 ปี แม่ของนางสาวเจี๊ยบ ถึงกับยกมือไหว้ขอบคุณผู้ที่ช่วยตามหาลูกสาว พร้อมทั้งกล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากลูกสาวหายตัวไป 2 คืนตนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ และดีใจมากที่รู้ว่าลูกสาวปลอดภัยดี และรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานและเพื่อนบ้านที่ช่วยกันตามหาหลายวัน ตนคิดอย่างเดียวกลัวเขาเสียชีวิตแล้ว หลังจากทราบข่าวว่าอยู่ที่ห้วยขวางตนรู้สึกดีใจมาก
ส่วนเงินที่คู่กรณีให้มา 1 หมื่นบาทตนยังไม่ได้ปรึกษาลูก เขานัดให้ไปพบและให้เงินมา ตนยังอยู่ในอาการบาดเจ็บและมึนหัวจากอุบัติเหตุหัวฟาดพื้นจึงยังไม่ได้พูดอะไร คู่กรณีเขาให้มาแค่นั้นคิดว่าคงยังไม่พอกับการรักษาตัวที่หมดหลายหมื่นบาท และจะได้ปรึกษาลูกอีกครั้ง