นครปฐม - ตำรวจนครปฐม สนธิกำลังสืบสวนภาค 7 รวบคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์บริษัทสินเชื่อ 4 ครั้งต่อเนื่อง สารภาพเห็นเก็บเงินหละหลวมหลังเคยนำรถไปจำนำ ส่วนเงินที่ได้นำไปเที่ยวเตร่ อึ้งพบเป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้านย่านกำแพงแสน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ที่หน้าหอประชุมศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รองผบช.ภ.7 พ.ต.อ.สมภพ พงษ์ฤกษ์ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.รัตนะ ปาลจันทร์ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนการบุกชิงทรัพย์บริษัทสินเชื่อ 4 แห่งใน จ.นครปฐม
พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายเอนก หรือเหนก อยู่อินทร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.15 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นายชัยวัฒน์ แสนสี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.1 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนปลอมทำมาจากปืนบีบีกัน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 สีน้ำเงิน ไม่ติดแป้ายทะเบียน ที่ได้ข่มขู่มาจากผู้เสียหาย 1 คัน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคนร้ายที่ออกชิงทรัพย์บริษัทสินเชื่อ 4 ครั้ง และเหตุชิงทรัพย์จากประชาชนโดยมีรูปพรรณลักษณะคล้ายกันหลายครั้ง พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 จึงสั่งการให้เร่งติดตามคนร้าย ซึ่งวันที่ 6 พ.ค. เวลา 14.04 น. ชิงทรัพย์จาก หจก.ทรัพย์กมล เทรดดิ้ง อ.ดอนตูม ได้เงิน 7,280 บาท วันที่ 8 พ.ค. เวลา 14.03 น. ชิงทรัพย์ที่บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด อ.กำแพงแสน ได้เงิน 40,000 บาท วันที่ 19 พ.ค. เวลา 14.00 น. ชิงทรัพย์ที่บริษัท ทรัพย์กมลลิสซิ่ง จำกัด อ.เมืองนครปฐม ได้เงิน 12,000 บาท วันที่ 14 ก.ค. เวลา 15.28 น. ชิงทรัพย์ที่บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) ใน อ.กำแพงแสน แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป
นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ของกลางที่นำมาแถลงข่าวพบว่า คนร้ายทั้ง 2 คน ได้ไปชิงจากพื้นที่ สภ.ดอนตูม เมื่อวันที่ 5 ก.ค. และมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง อีก 1 คัน ก็ถูกขู่ชิงทรัพย์จากพื้นที่ สภ.ดอนตูม
ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ชุด กก.สส. 1 บก.สส.ภ.7 นำสนธิกำลังกับ สภ.ดอนตูม สภ.กำแพงแสน สภ.เมือง และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม เข้าตรวจสอบหลักฐาน และกล้องวงจรปิดจนได้ลักษณะรูปพรรณของคนร้าย กระทั่งวันที่ 23 ก.ค. เวลาประมาณ 13.30 น. ตำรวจได้ขับรถสายตรวจพบชายมีลักษณะคล้ายกับบุคคลที่กำลังติดตามตัว ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงิน ที่ถนนคันคลอง หมู่บ้านปักไม้ลาย ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จึงได้เข้าขอตรวจค้น แต่ชายคนดังกล่าวได้วิ่งหนีเข้าป่าอ้อยด้านหลังบ้านออกไป
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อมกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ สอบถามทราบชื่อต่อมาคือ นายอเนก ซึ่งได้ร่วมกับ นายไชยวัฒน์ หรือตุ๊ก ที่ยังหลบหนีชิงทรัพย์มาจากพื้นที่ สภ.ดอนตูม โดยใช้อาวุธปืนขู่บังคับมาจาก น.ส.ณัฎฐา ฉ่ำตาก้อง ผู้ขับ และ น.ส.บุญชู ฉ่ำต้ากอง ผู้ซ้อน และชิงรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง อีก 1 คัน โดยหลังจากก่อเหตุมา 3 ครั้ง ได้นำรถจักรยายนต์สีแดงไปทิ้งในคลองชลประทาน ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน
ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายไชยวัฒน์ มาสอบสวน สารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์จากเหยื่อที่เป็นผู้หญิงจริง โดยนายอเนก เป็นคนลงมือชิงทรัพย์บริษัทสินเชื่อคนเดียวทั้ง 4 ครั้ง โดยได้ใช้อาวุธปืน หลังศึกษาจากการที่เคยนำรถจักรยานยนต์ไปจำนำจากบริษัทสินเชื่อจนเห็นว่า เก็บเงินหละหลวม น่าจะง่ายต่อการก่อเหตุ จึงได้ลงมือ และนำเงินราว 150,000 บาทไปเที่ยวเตร่จนหมด ก่อนจะมาถูกรวบตัวได้
ทั้งนี้ นายอเนก เป็นบุตรชายของผู้ใหญ่บ้านที่มีหน้าตาในเขต อ.กำแพงแสน ขณะที่มีการแถลงข่าวได้มีญาติ และแม่มาดู ซึ่งนายอเนก ได้ร้องไห้หลังทำการแถลงข่าวเสร็จ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะถูกตั้งหลายหลายข้อกล่าวหา ส่วนนายไชยวัฒน์ พบว่า มีคดีติดตัวด้วย ซึ่งกำลังสอบสวนว่ามีคดีอะไรบ้าง จะได้รวบรวมแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
