จันทบุรี - คนขับรถสองแถวระยอง-บ้านเพ-เกาะเสม็ด ตกเป็นผู้ต้องหาที่อุ้มเจ้าอาวาสวัดโสมนาราม หลังมีหลักฐาน และพยานรู้เห็นมัด ขณะที่หลายหน่วยงานยังคงออกติดตามค้นหาทั้งภาคพื้นดิน และอากาศอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี พระสุพัฒน กิจอุดม เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม อ.เมือง จ.จัทบุรี ถูกอุ้มหายตัวไปว่า กองบังคับการสืบสวนภาค 2 ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อส. และชาวบ้านยังคงมีการออกติดตามค้นหาตัวพระสุพัฒน อย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคพื้นดิโดยนการเดินเท้าปูพรมในรัศมี 5-10 กิโลเมตร และทางอากาศ
ล่าสุด ได้รับการสนับสนุนจาก นายเชาวลิต ประทีป ประธานตำรวจอาสาแก่งหางแมว นำพารามอเตอร์ 3 ลำ มาบินค้นหาในรัศมี 10 กิโลเมตร ตั้งแต่วัดโสมนาราม ไปจนถึงตำบลฉมัน อำเภอมะขาม ตั้งแต่เช้าถึงเย็นก็ยังไม่พบเบาะแส ส่วนแนวทางการสืบสวนคดี ล่าสุด รู้ตัวผู้ต้องหาแน่ชัดแล้ว คือ นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี อายุ 37 ปีชาว จ.นครสวรรค์ คนขับรถสองแถวสายระยอง-บ้านเพ-เกาะเสม็ด เข้ามารับตัวเจ้าอาวาส พร้อมเงินผ้าป่าสามัคคีกว่า 1 แสนบาท และรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กท 9190 จันทบุรี เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหายตัวไป
เบื้องต้น นายไพรสณท์ ยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ เบื้องต้น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อ นายไพรสณท์ คือ นางแม ภรรยาของนายไพรสณท์ ทางตำรวจกันไว้เป็นพยานคนสำคัญ เพื่อสาวไปสู่ผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคนที่มีการวางแผนอุ้มตัวและเงินกว่า 1 แสนบาทไป ส่วนรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู ที่ได้จากเจ้าของบ่อนบ้านผักกาดรับจำนำจากผู้ต้องหารายนี้ และนำมาส่งมอบคืนให้แก่ทหารอำเภอโป่งน้ำร้อน ก่อนที่ทางทหารจะนำมาส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี สร้างความใจชื่นให้แก่ญาติพี่น้องของเจ้าอาวาส ศิษยานุศิษย์ และชาวบ้านได้ในส่วนหนึ่งว่าจะได้พบเจ้าอาวาสวัดโสมนารามอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น หรือมรณภาพไปแล้วก็ตาม
สำหรับประวัติของนายไพรสณท์ ก่อคดีเช่นนี้มาอย่างโชกโชน ทั้งในพื้นที่ระยอง สระบุรี สุพรรณบุรี และสมุทรปราการ โดยจะเลือกโอกาสการจัดทอดผ้าตระเวนไปตามวัดต่างๆ ทำทีซื้อไวตามิ้ลค์ 5-6 ขวด เข้ามาถวายพระเพื่อตีสนิทให้พระเชื่อใจ และสบโอกาสที่ไม่มีใครอยู่วัดทำการอุ้ม และนำเงินผ้าป่าไป หากพระ หรือเจ้าอาวาสรูปใดมีการขัดขืนก็จะลงมือฆ่า และหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเฝ้าติดตามผู้ต้องหารายนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งบ้านญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่คาดว่าผู้ต้องหาจะไปหลบซ่อนตัว รวมถึงฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีเข้าไป ซึ่งได้ประสานกับตำรวจประเทศกัมพูชาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา ขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี กำลังขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดจันทบุรี
