เชียงใหม่ - ผอ.เขื่อนแม่กวงเสนอแนวคิดอนาคตจัดเก็บค่าน้ำใช้เพื่อการเกษตร หวังผลเชิงจิตวิทยากระตุ้นจิตสำนึกใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมนำเงินจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาช่วยเหลือเกษตรกรทั้งด้านการผลิต การตลาด และชีวิตความเป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับต้องมีการพูดคุยหารือกันทุกฝ่ายก่อนเพื่อรับฟังความเห็น
นายวุฒิชัย รักษาสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า จากสถานการณ์ปัญหาขาดแคลนน้ำใช้เพื่อการเกษตรในปีนี้ ทำให้เกิดแนวคิดว่าในอนาคตน่าจะมีการเก็บค่าน้ำใช้เพื่อการเกษตร
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกและผลในแง่จิตวิทยาทำให้เกษตรกรมีการใช้น้ำอย่างประหยัดและเห็นคุณค่ามากยิ่งขึ้น รวมทั้งเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาการทำการเกษตรไม่เคยเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เลย และแม้ในกฎหมายชลประทาน พ.ศ. 2485 จะมีการกำหนดไว้แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากเกษตรกร ทำให้ในช่วงที่น้ำมีปริมาณมากพบว่ามีเกษตรกรบางส่วนที่อาจจะมีการใช้น้ำได้ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กวงอุดมธาราบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาเคยมีงานศึกษาวิจัยพบว่า ในส่วนของเกษตรกรก็พร้อมที่จะจ่ายค่าใช้น้ำเพื่อการเกษตร เพียงแต่ต้องมีรูปแบบและระบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม โดยในส่วนของอัตราการจัดเก็บนั้นอาจจะมีการกำหนดปริมาณการใช้น้ำขั้นต่ำ หากใช้ไม่ถึงก็ไม่จำเป็นต้องจ่าย
ส่วนเงินที่จัดเก็บได้อาจจะนำไปจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งในด้านการผลิต และการตลาด รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อการบริหารจัดการน้ำใช้เพื่อการเกษตรและต่อเกษตรกร อย่างไรก็ตาม จำเป็นจะต้องมีการพูดคุยหารือร่วมกับกลุ่มเกษตรกรเกี่ยวกับแนวคิดนี้อีกครั้งว่ามีความคิดเห็นอย่างไร
โดยนายวุฒิชัยยกตัวอย่างในส่วนของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กวงอุดมธาราว่า มีพื้นที่ทำนาประมาณ 120,000 ไร่ สมมติมีการเก็บค่าใช้น้ำเพื่อการเกษตรจากการทำนาไร่ละ 20 บาทต่อปี จะเก็บได้เงินปีละประมาณ 2.4 ล้านบาท ซึ่งเงินที่เก็บได้สามารถนำไปจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกรได้
พร้อมทั้งมีการกำหนดรูปแบบวิธีการบริหารจัดการที่เกษตรกรมีส่วนร่วมในการควบคุมและตรวจสอบได้ สามารถนำเงินไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน เช่น จัดซื้อเครื่องมือเครื่องจักรเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต, จัดทำท่าข้าวและโรงสีชุมชน เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองให้เกษตรกร เป็นต้น