ศูนย์ข่าวศรีราชา - “นิด้า” เผยผลสำรวจข้อมูลสถิติการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว พบชลบุรีรายได้กระฉูด แต่ขาดกิจกรรมเชื่อมโยงส่งผลให้เม็ดเงินกระจุกตัว เตรียมเสนอจังหวัดชลบุรีพัฒนาส่งเสริมแผนการกระจายรายได้ในภูมิภาค
ที่โรงแรมแกรนด์ โซเล่ พัทยา จ.ชลบุรี คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ ร่วมกับศูนย์วิจัยประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สถานบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า จัดทำโครงการบัญชีประชาชาติด้านการท่องเที่ยว หลังได้รับงบประมาณอุดหนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.เพื่อสำรวจรายรับรายจ่ายในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ก่อนนำมาสร้างแบบจำลองที่จะช่วยทำให้ทราบถึงผลกระทบของการท่องเที่ยวที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของจังหวัดท่องเที่ยวทั้งในภาพรวม และในแต่ละสาขาธุรกิจท่องเที่ยว
โดยการสัมมนาครั้งนี้เป็นการนำข้อมูลจากผลการศึกษามานำเสนอต่อภาคธุรกิจ พร้อมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อนำไปรวบรวมก่อนเสนอตรงยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในการพิจารณาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนันต์ วัฒนกุลจรัส หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า สำหรับบัญชีประชาชาติด้านการท่องเที่ยวนั้นเป็นการสรุปผลจากข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ที่ได้จากธุรกิจการท่องเที่ยวในสาขาต่างๆ ทั้งทางตรง และทางอ้อม จาก 12 สาขาหลัก ได้แก่ที่พัก ร้านอาหาร ร้านของฝาก แหล่งท่องเที่ยว หรือพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ถือว่ามีปริมาณนักท่องเที่ยวสูง และมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก แต่พบว่ากิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่นั้นไม่สนับสนุนกัน แต่เป็นในลักษณะผูกขาด ส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ยในภาพรวมของจังหวัดมีไม่มากนัก แม้ว่ารายได้ของจังหวัดชลบุรีจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศก็ตาม
ขณะที่พื้นที่อื่นๆ เช่น เชียงใหม่ ระยอง หรือตราดนั้น พบว่า มีกิจกรรมการท่องเที่ยวหลากหลายที่เชื่อมโยงกันอย่างมีมิติ ส่งผลให้รายได้กระจายตัว และมีสัดส่วนของการจับจ่ายต่อหัวสูงกว่าพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายในด้านรายได้ที่จะเข้าสู่พื้นที่
ดังนั้น ทางศูนย์ฯ จึงได้จัดทำแผน และข้อมูลดังกล่าวโดยรวบรวมจากผู้ประกอบการธุรกิจทุกประเภท ก่อนสรุปเพื่อเสนอตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ก่อนพิจารณาแนวทางการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งจะเกิดผลดีต่อรายได้ และเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป
ที่โรงแรมแกรนด์ โซเล่ พัทยา จ.ชลบุรี คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ ร่วมกับศูนย์วิจัยประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สถานบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า จัดทำโครงการบัญชีประชาชาติด้านการท่องเที่ยว หลังได้รับงบประมาณอุดหนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.เพื่อสำรวจรายรับรายจ่ายในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ก่อนนำมาสร้างแบบจำลองที่จะช่วยทำให้ทราบถึงผลกระทบของการท่องเที่ยวที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของจังหวัดท่องเที่ยวทั้งในภาพรวม และในแต่ละสาขาธุรกิจท่องเที่ยว
โดยการสัมมนาครั้งนี้เป็นการนำข้อมูลจากผลการศึกษามานำเสนอต่อภาคธุรกิจ พร้อมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อนำไปรวบรวมก่อนเสนอตรงยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในการพิจารณาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนันต์ วัฒนกุลจรัส หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า สำหรับบัญชีประชาชาติด้านการท่องเที่ยวนั้นเป็นการสรุปผลจากข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ที่ได้จากธุรกิจการท่องเที่ยวในสาขาต่างๆ ทั้งทางตรง และทางอ้อม จาก 12 สาขาหลัก ได้แก่ที่พัก ร้านอาหาร ร้านของฝาก แหล่งท่องเที่ยว หรือพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ถือว่ามีปริมาณนักท่องเที่ยวสูง และมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก แต่พบว่ากิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่นั้นไม่สนับสนุนกัน แต่เป็นในลักษณะผูกขาด ส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ยในภาพรวมของจังหวัดมีไม่มากนัก แม้ว่ารายได้ของจังหวัดชลบุรีจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศก็ตาม
ขณะที่พื้นที่อื่นๆ เช่น เชียงใหม่ ระยอง หรือตราดนั้น พบว่า มีกิจกรรมการท่องเที่ยวหลากหลายที่เชื่อมโยงกันอย่างมีมิติ ส่งผลให้รายได้กระจายตัว และมีสัดส่วนของการจับจ่ายต่อหัวสูงกว่าพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายในด้านรายได้ที่จะเข้าสู่พื้นที่
ดังนั้น ทางศูนย์ฯ จึงได้จัดทำแผน และข้อมูลดังกล่าวโดยรวบรวมจากผู้ประกอบการธุรกิจทุกประเภท ก่อนสรุปเพื่อเสนอตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ก่อนพิจารณาแนวทางการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งจะเกิดผลดีต่อรายได้ และเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป