“สวาทแคท” อุทธรณ์โทษปรับขายบัตรเกิน อ้างเกิน “ที่นั่ง” แต่ไม่เกิน “ความจุอัฒจันทร์”

ศูนย์ข่าวานครราชสีมา - “อุทัย” ผจก.ทีมนครราชสีมามาสด้า เอฟซี แจงกรณีถูกลงโทษปรับ 3 หมื่นเหตุขายบัตรเข้าชมการแข่งขันเกินความจุที่นั่งของสนาม ในศึก “ดาร์บี้แมตช์อีสาน” ทุบสถิติยอดคนเข้าดูฟุตบอลไทยลีก อ้างผู้ชมเกินกว่า “จำนวนที่นั่ง” แต่ไม่เกิน “ปริมาณความจุอัฒจันทร์” ที่ถูกออกแบบรองรับได้กว่า 4 หมื่นคน พร้อมยื่นอุทธรณ์โทษกับบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก แล้ว

วันนี้ (16 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุทัย มิ่งขวัญ ผู้อำนวยการสโมสรและผู้จัดการทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้โพสต์ทางเฟซบุ๊ก กรณีสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ขอชี้แจงกรณีแฟนบอลเข้าชมการแข่งขันดาร์บี้แมตช์อีสาน 11 กรกฎาคม 2558 ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมาศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ดาร์บี้แมตช์อีสาน ระหว่างสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มีแฟนบอลให้ความสนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากถึง 34,659 คน และได้สร้างสถิติใหม่ของฟุตบอลไทยลีก จนได้มีเสียงชื่นชมถึงการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยเป็นอย่างมากนั้น สโมสรฯ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ให้การสนับสนุนในการพัฒนาวงการฟุตบอลของประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งขอขอบคุณแฟนบอลสวาทแคททุกๆ ท่านที่ได้ให้ความสนใจเข้าชมและเชียร์ทีมสวาทแคทของเราอย่างล้นหลาม จนเป็นสถิติใหม่ของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกนั้น

และจากกรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท และวินัย ได้มีการพิจารณาโทษปรับสโมสรฯ กรณีแฟนบอลเข้าชมการแข่งขันเกินความจุของเก้าอี้ที่นั่งในสนาม 22,500 ที่นั่งนั้น สโมสรฯ ก็ไม่ได้ละเลยต่อข้อบังคับและกฎระเบียบที่ทาง บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้ตั้งไว้แต่อย่างใด และพร้อมที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ

ในการนี้ สโมสรฯ ได้มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมตามระเบียบ และได้มีการวางแผนรองรับจำนวนแฟนบอลที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเข้ามาชมและเชียร์เกินความจุเก้าอี้ โดยได้มีการจัดเตรียมจอโปรเจกเตอร์ขนาดยักษ์ไว้ที่บริเวณลานกิจกรรม

แต่ด้วยจำนวนแฟนบอลที่ได้ให้ความสนใจในเกมการแข่งขันที่เยอะมาก สโมสรฯ ก็ไม่สามารถทนต่อกระแสเรียกร้องของแฟนบอลที่รออยู่ด้านนอกสนามกว่าสองหมื่นคนได้ จึงให้แฟนบอลได้เข้าชมเกมการแข่งขันภายในสนามในจำนวนที่สนามสามารถรองรับได้ ทั้งนี้ จำนวนแฟนบอลที่ให้เข้าชมเพิ่ม สโมสรฯ ไม่ได้ให้เข้าเกินจำนวน “ปริมาณความจุอัฒจันทร์” โดยการออกแบบสนามกีฬาหรืออัฒจันทร์นั้นจะต้องได้มาตรฐานตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งสามารถรับน้ำหนักบรรทุกจร (Live Load) ขั้นต่ำ 500 กิโลกรัม/ตารางเมตร ซึ่งสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ มีโครงสร้างที่สามารถรองรับผู้ชมได้มากกว่า 40,000 คน

สโมสรฯ ขอเรียนยืนยันว่า การที่จำนวนผู้ชมในสนามแข่งขันมากกว่า “จำนวนที่นั่ง” ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ชม ซึ่งทางสโมสรฯ ให้ความสำคัญเสมอมา และได้มีการวางแผนป้องกันและดำเนินการหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดใดๆ ขึ้น

อีกทั้งเมื่อครั้งที่ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมานั้น ก็ได้มีจำนวนผู้ชมได้เข้าชมการแข่งขันอยู่ในกรอบของจำนวน “ความจุอัฒจันทร์” เช่นกันกับการแข่งขันในนัดนี้ ซึ่งตรงจุดนี้สโมสรฯ อยากให้ดูที่ “ความจุของอัฒจันทร์” ที่แท้จริง มากกว่า “ความจุที่นั่ง” ภายในสนาม เป็นหลัก

“ผมขอเรียนยืนยันว่า สโมสรได้ถือปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบว่าด้วยการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพลีกของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด และคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ชมในสนามเสมอมา

ทั้งนี้ สโมสรฯ ได้ใช้สิทธิในการอุทธรณ์โทษดังกล่าวกับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์โทษ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด แล้ว เพื่อให้เป็นมาตรฐานกับฟุตบอลไทยต่อไป” ลงชื่อ นายอุทัย มิ่งขวัญ ผู้อำนวยการสโมสรและผู้จัดการทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี