พระนครศรีอยุธยา - คณะทำงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี ลงกรุงเก่า พอใจโครงการก่อสร้างระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้า และขุดลอกลำรางสาธารณะของอำเภอเสนา สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในช่วงประสบปัญหาภัยแล้งได้
วันนี้ (15 ก.ค.) พล.ต.กมล เพิ่มกำลังพล หัวหน้าคณะทำงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเขตตรวจราชการที่ 1 พร้อมด้วย นางประภาศรี บุญวิเศษ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจติดตามผลความก้าวหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ก่อสร้างผนังคลองคนกรีตเสริมเหล็ก และขุดลอกลำรางสาธารณะที่ได้รับอนุมัติจัดสรรงบประมาณกรณีฉุกเฉินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พบว่า มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 จะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้หากไม่ได้รับการจัดสรรจะทำให้พื้นที่ทำการเกษตรกว่าพันไร่ และเกษตรกรกว่า 30 ครัวเรือน ขาดแคลนน้ำ
“เป็นการเติมเต็มให้แก่โครงการเกี่ยวกับชลประทาน ซึ่งในพื้นที่อำเภอเสนา ทางด้านทิศเหนือมีเครื่องสูบน้ำแล้วตัวที่ 1 และ 2 และตัวที่กำลังดำเนินการอยู่เป็นตัวที่ 3 เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำน้อยเพื่อเติมเต็มพื้นที่ทางด้านทิศใต้ ในเขต ต.บ้านแพน จะทำให้ให้พื้นที่อีกกว่า 1 พันไร่ ได้รับการจัดสรรน้ำโดยมีกลุ่มผู้ใช้น้ำ 30 กว่าราย” พล.ต.กมล กล่าว
พร้อมกล่าวด้วยว่า จากนี้ไปจะสนับสนุนโครงการต่อเนื่องให้ครอบคลุมทั้งอำเภอ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีน้ำสำหรับทำการเกษตรอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเกษตรกร