xs
xsm
sm
md
lg

วอนช่วย! ครอบครัวหนูน้อย 13 ปีบุรีรัมย์ พ่อตาย-แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วอนช่วยเหลือ ครอบครัว ด.ช.ชาญณรงค์ พวกประโคน อายุ 13 ปี นร.ชั้น ม.1 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พ่อเสียชีวิตกะทันหัน แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ส่วนตาวัย 82 ปี ป่วยช่วยตัวเองไม่ได้ วันนี้ ( 12 ก.ค.)
บุรีรัมย์ - น่าเวทนา! พบครอบครัวเด็กชายวัย 13 เรียนชั้น ม.1 พ่อเสียชีวิตกะทันหัน แม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ส่วนตาวัย 82 เส้นเลือดสมองตีบ เบาหวาน ไตวายช่วยตัวเองไม่ได้ต้องเฝ้าดูแลตลอด ขาดเสาหลักไม่มีเงินจุนเจือครอบครัว ห่วงอนาคตลูกชาย หากแม่สิ้นลมใครจะดูแล วอนหน่วยงานภาครัฐและผู้ใจบุญช่วยเหลือด่วน

วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจาก นายสุรธี เคลือบคนโท ผู้อำนวยการโรงเรียนถนนหักพิทยาคม ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่า มีครอบครัว ด.ช.ชาญณรงค์ พวกประโคน อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ม.1) โรงเรียนถนนหักพิทยาคม ครอบครัวต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เนื่องจากพ่อ ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันจากอาการหัวใจล้มเหลว ส่วนแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ตาวัย 82 ปีป่วยเส้นเลือดสมองตีบ ไตวาย และเบาหวาน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลูกชายต้องเฝ้าดูแลตลอด วอนผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือ หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริง

เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ 4 หมู่ 4 บ้านโคกเนิน ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พบ นางชอบ พวกประโคน อายุ 47 ปี นายถ่วง สัญจร อายุ 82 ปี พ่อ นายเชิด สัญจร อายุ 46 ปี น้องชาย และ ด.ช.ชาญณรงค์ พวกประโคน อายุ 13 ปี ลูกชาย พร้อมด้วยญาติ และเพื่อนบ้าน กำลังจัดงานศพของนายสมาน พวกประโคน อายุ 49 ปี สามีของนางชอบ ที่เพิ่งเสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวเมื่อคืนวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา

นางชอบ พวกประโคน เล่าว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมานานกว่า 1 ปี และเพิ่งผ่าตัดไปเมื่อเดือน ต.ค. 2557 หมอนัดให้ไปเอกซเรย์และตรวจเลือดในวันที่ 22 ก.ค. 2558 ซึ่งรักษาตัวจากบัตรทอง 30 บาทมาตลอด พ่อก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน สมองตีบ และไตวาย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้น้องชายและลูกชายของตนต้องคอยเฝ้าดูแลตาทั้งป้อนข้าว ป้อนน้ำ และยามาตลอด

นางชอบเล่าด้วยน้ำตานองหน้าอีกว่า สามีซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และทำงานรับจ้างทั่วไปรายวัน ต้องมาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันจากอาการหัวใจล้มเหลว ทำให้ครอบครัวขาดเสาหลักในการหารายได้มาจุนเจือ อีกทั้งลูกชายกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.1 เมื่อไม่มีพ่อมาดูแลแล้วลูกชายจะเป็นอย่างไร เพราะตนก็ป่วยอยู่ไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ ทุกวันนี้หลังจากสามีตายก็มีเพียงเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาทของพ่อเท่านั้น

ทางด้าน นายสุรธี เคลือบคนโท ผู้อำนวยการโรงเรียนถนนหักพิทยาคม กล่าวว่า ทราบเรื่องนี้จากครูประจำชั้นของเด็กนักเรียน ที่พ่อซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวอย่างกะทันหัน แม่ก็ป่วยเป็นมะเร็งทำงานไม่ได้ อีกทั้งตาที่มีอายุมากก็ป่วยเป็นเบาหวาน ไตวาย และเส้นเลือดสมองตีบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยมีลูกชายและหลานชายที่กำลังเรียนคอยดูแล จึงได้รายงานเรื่องนี้ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ได้รับทราบเพื่อหาแนวทางให้การช่วยเหลือเด็กซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.1

จากสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว ด.ช.ชาญณรงค์ น่าเวทนาเป็นอย่างมาก จึงขอฝากวิงวอนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้มาช่วยกันให้การช่วยเหลือครอบครัวของเด็กชายชาญณรงค์ด้วย

หากท่านใดมีจิตศรัทธาต้องการให้การช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ช.ชาญณรงค์ พวกประโคน สามารถติดต่อได้ที่ นายสุรธี เคลือบคนโท ผู้อำนวยการโรงเรียนถนนหักพิทยาคม หมายเลขโทรศัพท์ 08-9845-7228 หรือชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือนักเรียน เด็กชายชาญณรงค์ พวกประโคน ร.ร.ถนนหักพิทยาคม ธนาคารกรุงไทย สาขานางรอง เลขที่บัญชี 373-0-63818-1 โดยจะมีคณะครู และกรรมการสถานศึกษา เป็นผู้ดูแล
ด.ช.ชาญณรงค์ พวกประโคน อายุ 13 ปี




กำลังโหลดความคิดเห็น