อุตรดิตถ์ - ประธานสภาเกษตรกร เผยกลางวงประชุม ชาวนาอุตรดิตถเปิดศึกแย่งน้ำทำนาปีกันแล้ว ขณะที่จังหวัดฯกลับประกาศปิดช่วยเหลือภัยแล้ง ทำ อปท.มีปัญหาเบิกงบช่วยเหลือชาวบ้าน
วันนี้ (10 ก.ค.) นายบัญชา อรุณเขต ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวในที่ประชุมอนุกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์ ที่มีนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าฯเป็นประธาน ณ ห้องประชุมศรีพนมมาศ ศาลากลางจังหวัดว่า มีการทำนาปีนอกเขตชลประทานหลายพื้นที่ของอุตรดิตถ์ ซึ่งสวนทางกับข้อมูลของทางราชการที่บอกว่าไม่มีการทำนานอกเขต แต่ก็ต้องเห็นใจชาวนา เพราะหากไม่ทำนา ก็ไม่มีรายได้ อยากให้ทางราชการใส่ใจในปัญหาของเกษตรกรให้มากกว่านี้
นายบัญชา กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกษตรกร ต.ไผ่ล้อม ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล และ ต.บ้านเกาะ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้กั้นแม่น้ำน่าน เพื่อสูบน้ำเข้าสู่พื้นที่นาข้าวที่กำลังตั้งท้อง หากไม่ได้น้ำไปใส่นาข้าวก็จะเสียหายทั้งหมด แต่ขณะนี้มีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว เพราะเกษตรกรทั้ง 3 ตำบล กำลังมีการแย่งน้ำกัน เกษตรกรที่อยู่ท้ายน้ำยังไม่ได้รับน้ำจากชลประทาน คนที่อยู่ต้นน้ำก็อ้างว่า ยังได้รับน้ำไม่เพียงพอ เรื่องนี้ชลประทานจะต้องมีการบริหารจัดการให้ดี เพราะปัญหาการแย่งน้ำเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
“อีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับรายงานจากเกษตรกรและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่า จังหวัดได้ประกาศปิดการรับให้การช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติฉุกเฉิน หรือภัยแล้งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน โดยอ้างว่าไม่มีปัญหาภัยแล้ง อุตรดิตถ์อยู่ในภาวะปกติแล้ว แต่ข้อเท็จจริงสถานการณ์ภัยแล้งของอุตรดิตถ์ ยังเกิดขึ้นและรุนแรง หากประกาศปิดรับการให้การช่วยเหลือ อปท.ก็จะมีปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อยากให้จังหวัดประกาศขยายเวลาออกไปมากกว่าการประกาศปิดรับการให้การช่วยเหลือ” นายบัญชา กล่าว
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ยอมรับว่าจังหวัดฯประกาศปิดรับการให้การช่วยเหลือภัยแล้งไปแล้ว แม้จะทราบว่ายังมีปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นอยู่ก็ตาม แต่ก็เป็นไปตามระเบียบที่ต้องให้การช่วยเหลือภายใน 90 วัน เมื่อพ้น 90 วัน ก็ต้องประกาศปิด และก่อนปิดก็ได้แจ้งไปยังอำเภอที่ประกาศภัยพิบัติแล้งก็ไม่มีอำเภอใดแจ้งกลับมาจึงต้องปิดลง
อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งไปยังท้องถิ่นจังหวัดฯให้แจ้งไปยัง อปท.ที่ประสบปัญหาภัยแล้งก็ยังสามารถนำงบประมาณออกมาใช้จ่ายได้ ไม่ผิดระเบียบการใช้งบประมาณของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แต่อย่างใด
