พระนครศรีอยุธยา - แขวงทางหลวงอยุธยา ยื่นคำขาดภายใน 25 ก.ค.นี้ ร้านค้าที่รุกล้ำเขตทางหลวงถนนสายเอเชียช่วงบางปะอิน-อยุธยา-อ่างทอง และเป็นจุดเสี่ยงจะต้องรื้อถอนออกจากพื้นที่ทั้งหมด ขณะที่ร้านค้าอีกกว่า 200 ร้าน ต้องถอยร่นจากไหล่ทาง 5-10 เมตร ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (10 ก.ค.) นายเรวัต ประสงค์ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายไพจิตร์ โพธิ์จันทร์ ผู้อำนวยการแขวงการทางอยุธยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชี้แจงข้อกฎหมายให้แก่ร้านค้าผู้รุกล้ำเขตทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย ช่วงบางปะอิน-อยุธยา-อ่างทอง ในพื้นที่ อ.มหาราช และอีก 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.นครหลวง อ.อุทัย อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บางปะอิน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้รุกล้ำได้ปลูกสร้างร้านค้า หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ รุกล้ำเขตทางหลวงเพื่อทำการค้าขายเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
นายไพจิตร์ โพธิ์จันทร์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอยุธยา กล่าวว่า วันนี้ได้ยื่นคำขาดต่อร้านค้าที่เป็นจุดเสี่ยงบริเวณทางร่วม ทางแยก ทางโค้ง สะพานกลับรถ และศาลาทางหลวง ภายในวันที่ 25 ก.ค.นี้ จะต้องรื้อถอนออกจากพื้นที่ ส่วนร้านค้าอื่นๆ ที่รุกล้ำไหล่ทางจะต้องถอยร่นตั้งแต่ 5-10 เมตร ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี อย่างไรก็ตาม ล่าสุด จากการสำรวจร้านค้าที่รุกล้ำบริเวณถนนสายเอเชียมีทั้งหมด 258 ร้าน
“เป็นคดีอาญา ขัดพระราชบัญญัติทางหลวงมาตรา 38 เรื่องการวางสิ่งของกีดขวางการจราจรและก่อสร้างสิ่งรุกล้ำ ระบุโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
นายไพจิตร์ โพธิ์จันทร์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้แขวงทางหลวงได้ดำเนินการต่อร้านค้าที่รุกล้ำทางหลวงทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการจัดระเบียบ และเป็นไปตามนโยบายของ คสช.และรัฐบาล
ด้านนายเรวัต ประสงค์ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจราจรทางบก ตั้งแต่เดือน ก.พ.และ พ.ค.58 โดยมีมติให้แขวงทางหลวงอยุธยา เร่งดำเนินการต่อร้านค้าที่รุกล้ำพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง และจุดอื่นๆ ภายใน 1 ปี ช่วงแรกจุดเสี่ยงให้ดำเนินการภายใน 15 วัน และภายใน 3 เดือน จะต้องมีการขับเคลื่อนที่ชัดเจน โดยกำหนดภายในวันที่ 31 พ.ค.59 ทุกร้านที่รุกล้ำจะต้องไม่มี หรือเกิดขึ้นอีก เนื่องจากที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหาการจราจร และเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง