ศูนย์ข่าวขอนแก่น - รักสามเส้า! ผู้รับเหมาหนุ่มยิงสาวแม่ลูกสองดับ พร้อมฆ่าตัวตายตามคารถกระบะ สามีเผยฝ่ายชายเคยแอบชอบฝ่ายหญิงตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยม แล้วแยกย้ายกันไปทำงาน กลับมาเจอกันอีกครั้งพยายามตามตื๊อทั้งที่รู้ว่ามีครอบครัวแล้ว ล่าสุด ฉุดฝ่ายหญิงยิงจนตาย แล้วยิงตัวเองตามปิดฉากรักไม่สมหวัง
เมื่อเวลา 15. 00 น.วันนี้ (8 ก.ค.) พ.ต.ท.เทียนไชย ชาวล้วน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย 2 ศพ ภายในบริเวณสำนักปฏิบัติธรรมวังจระเข้ บ้านคำหญ้าแดง หมู่ 6 ต.ป่าหวายนั่น อ.บ้านฝาง จึงได้รุดไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.โผนชัย ครองยุทธ์ ผกก.สภ.บ้านฝางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ
ถึงที่เกิดเหตุพบกับรถยนต์กระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผส 1966 เชียงใหม่ จอดอยู่ใกล้กับกระท่อมหันหน้ารถมาปากทาง บริเวณที่นั่งคนขับพบศพ นายประสิทธิ์ มีบุญเปี่ยม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/5 หมู่ 2 ต.หนองไม้ แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์เข้าที่ขมับหลังใบหูขวา 1 แห่ง
ส่วนที่เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้ามีพบศพ นางกิตติมา วงอินทร์จันทร์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 9 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น และเป็นเจ้าของร้านภานุวัฒน์แอร์ ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ถ.มิตรภาพ ถูกยิงเข้าที่ขมับหลังใบหูขวาเช่นเดียวกัน และเป็นอาวุธปืนแบบเดียวกัน
โดยที่มือขวาฝ่ายชายเขียนด้วยปากกาสีดำ ว่า “เรารักกันมานาน ยกให้หมด 7 แสน ถึงแต่งงาน” ฝ่ายหญิงเขียนว่า “ใช้หนี้ให้ด้วย 4 หมื่นบาท” ภายในเบาะรถมีเลือดเปรอะเปื้อน นอกจากนี้ พบปืนไทยประดิษฐ์ตกอยู่ข้างตัวของฝ่ายชาย
นอกจากนี้ ขณะตรวจที่เกิดเหตุได้มี นายภาณุวัฒน์ มุกดาอาพัทธกุล อายุ 40 ปี สามีของนางกิตติมา ที่ถูกยิงเข้าที่ใบหูเฉียดศีรษะด้านขวา ได้มาในที่เกิดเหตุ และบอกว่า ผู้ตายฝ่ายหญิงคือภรรยา ส่วนผู้ตายฝ่ายชายเป็นคนที่ชอบภรรยา และลักตัวภรรยาไปจากนายภาณุวัฒน์ ก่อนมาก่อเหตุยิงภรรยาของตัวเองตาย และเชื่อว่ายิงตัวตายตาม
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้พาภรรยา พร้อมลูกสาววัย 14 ปี และลูกสาววัย 10 ปี ออกจากบ้านไปนั่งทานข้าวที่บ้านของยายที่อยู่บ้านโนนท่อน ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นเวลาประมาณ 2-3 ทุ่ม ได้ขับรถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎท 7933 ขอนแก่น ออกจากบ้านยายเพื่อจะกลับมาที่บ้านของตัวเอง
พอขับรถออกมาได้สักพักได้มีรถปิกอัพที่มี นายประสิทธิ์ เป็นคนขับได้ขับรถติดตามมาอย่างกระชั้นชิด ตนได้พยายามขับหนีออกมาทางเลี่ยงเมือง นายประสิทธิ์ ได้ขับตามมาจนมาถึงทางแยก ถ.มะลิวัน ตัดกับถนนเลี่ยงเมือง นายประสิทธิ์ ได้ขับรถชนรถของตนที่ด้านข้างขวา จนรถยนต์ได้กระดอนไปขึ้นฟุตปาธ แล้วนายประสิทธิ์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะของตน โดยยิงผ่านเข้าไปที่กระจกด้านคนขับ ทำให้กระจกรถแตก ลูกกระสุนถูกที่ใบหูด้านขวา
หลังจากนั้น นายประสิทธิ์ ได้ลงจากรถเข้ามากระชากนางกิตติมา ขึ้นรถยนต์ปิกอัพไปต่อหน้าลูกสาวทั้ง 2 คน แล้วขับหลบหนีไปทาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น
นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า ทราบว่าสมัยเป็นเด็กนักเรียนประถม นายประสิทธิ์ แอบชอบพอกับภรรยาของตนอย่างมาก กระทั่งเรียนจบได้ไปอยู่ต่างจังหวัด ทำงานเป็นผู้รับเหมา เมื่อต้นปีนี้ก็ได้กลับมาบ้านเกิดที่ จ.ขอนแก่น ได้พบเจอกับภรรยาของตนอีกครั้งก็พยายามตามจีบภรรยาของตนมาโดยตลอด แม้รู้ว่านางกิตติมา มีสามี และมีลูกสาว 2 คนแล้วก็ตาม
โดยเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ ได้มาแอบพบนางกิตติมา อีก ตนก็ได้ห้ามและบอกว่า นางกิตติมา มีสามี และบุตรสาว 2 คน ก็ยังไม่ยอมเลิกรา แถมยังต่อยเข้าที่ใบหน้า และทำร้ายร่างกายของตนจนต้องแจ้งความไว้ที่ สภ.ย่อยสำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม และ ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้ตัดสินมีความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
หลังจากนั้น นายประสิทธิ์ ได้มาก่อเหตุอีกโดยลักพาภรรยาของตนไปต่อหน้าลูกสาว และต่อหน้าตน พาภรรยาของตนหลบหนีไปทาง อ.บ้านฝาง และท้ายสุดก็มาก่อเหตุยิงภรรยาของตนจนตาย และเชื่อว่าฆ่าตัวตายตาม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพผู้ตายทั้ง 2 ศพ ส่งให้แพทย์ไปผ่าชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์