xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการนิคมแหลมฉบัง ชี้อีสต์วอเตอร์ผลักภาระต้นทุนน้ำไม่เป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ชี้อีสต์วอเตอร์-กนอ. ผลักภาระต้นทุนน้ำให้ลูกค้าเรียกเก็บค่าไฟเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม ด้าน กนอ.แจงเป็นเพียงการชี้แจงแนวทางการจัดเก็บค่าสูบผันน้ำ เพื่อนำเสนอบอร์ด กนอ.พิจารณา

วันนี้ (8 ก.ค.) นายปรีชา จรเณร ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมบัง ประชุมชี้แจงกรณีการเก็บเงินค่าสูบผันน้ำเป็นการชั่วคราว และแผนป้องกันวิกฤตภัยแล้งของบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน ) หรือ East water ให้แก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากที่ผ่านมา East water ได้มีประกาศเรื่องการเก็บเงินค่าสูบผันน้ำเป็นการชั่วคราว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 ซึ่งทาง East water ขอจัดเก็บค่าสูบผันน้ำของสถานีสูบน้ำประแสร์ เพราะแหล่งน้ำในภาคตะวันออกมีปริมาณต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก โดยจะคิดเฉลี่ยจากผู้ใช้น้ำในพื้นที่ที่รับประโยชน์ในการสำรองน้ำ ซึ่งทางการนิคมฯ เห็นว่า เพื่อให้ผู้ใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ทุกรายได้รับทราบถึงสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน และแผนงานเพื่อป้องกันวิกฤตภัยแล้งของ East water

รวมทั้งเหตุผลความจำเป็นในการจัดเก็บเงินค่าสูบผันน้ำเป็นการชั่วคราว ทาง กนอ.จึงได้ให้ทาง East water มาร่วมชี้แจงให้ผู้ประกอบมารับทราบ ซึ่งหลังจากนี้ จะได้นำเรื่องเสนอให้คณะผู้บริหารของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

นายพิพัฒน์ พ่วงสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำปัจจุบันของแหล่งน้ำหลักในพื้นที่ภาคตะวันออก ปัจจุบันมีปริมาณต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก ดังนั้น ทางบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องสูบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ ไปสำรองที่อ่างเก็บคลองใหญ่และหนองปลาไหล เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำในปี 2558

ทางบริษัทจึงขอจัดเก็บค่าสูบผันน้ำของสถานีสูบน้ำประแสร์ โดยคิดเฉลี่ยจากผู้ใช้น้ำในพื้นที่ที่ได้ประโยชน์ในการสำรองน้ำดังกล่าวคือ ผู้ใช้น้ำในพื้นที่ชลบุรี ปลวกแดง บ่อวิน และระยอง โดยที่ผ่านมา ได้ทำการผันน้ำไปสำรองแล้วกว่า 6 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเป็นไปตามมาตรการที่วางไว้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคการผลิตในเขตอุตสาหกรรม และการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ภาคตะวันออก มั่นใจว่าในปีนี้ภาคตะวันออกจะไม่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างแน่นอน

ด้าน นายรังสฤษฏ์ ศรีประเสริฐภาพ ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เผยว่า จากกรณีดังกล่าวผู้ประกอบการมองว่าเป็นผลักภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วมันคือการขึ้นค่าน้ำนั่นเอง แต่ทาง East water เลี่ยงที่ใช้คำว่าค่าไฟฟ้าในการสูบผันน้ำแทน ซึ่งเรามองการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า ซึ่งเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า East water เป็นบริษัทเดียวที่บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวัน ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ก็ต้องใช้น้ำอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม การออกมาแสดงความคิดเห็นในครั้งเป็นเพียงแค่การบอกกล่าวให้เห็นใจผู้ใช้น้ำบ้างเท่านั้นเอง คงจะไปเรียกร้องอะไรไม่ได้ สุดท้ายผู้ประกอบการก็ต้องจ่าย และคงต้องตลอดไป เพราะที่ผ่านมา กรมชลประทาน การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัทอีสต์วอเตอร์ ได้ลงนาม MOU การสูบผันน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก และเพิ่มเสถียรภาพแหล่งน้ำของ จ.ระยอง โดยบันทึกข้อตกลงดังกล่าวมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563

นายรังสฤษฏ์  ศรีประเสริฐภาพ  ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง

กำลังโหลดความคิดเห็น