ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษร่วมทหารตรวจระเบิด-กระสุนสงครามอื้อ ที่พลเมืองดีนำส่งมอบ

ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ร่วมทหารตรวจสอบระเบิดและกระสุนปืนอาวุธสงครามจำนวนมากที่พลเมืองดีสองสามีภรรยานำมาส่งมอบให้ศูนย์ดำรงธรรม เตือนประชาชนหากพบอาวุธสงครามโดยเฉพาะระเบิด เพื่อความปลอดภัยไม่ควรเข้าไปจับต้อง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีพลเมืองดีนำเอาลูกระเบิดสังหารพร้อมใช้ และกระสุนปืนอาวุธสงครามจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย ลูกระเบิดขว้างสังหาร (ผลิตในประเทศจีน) ไม่ทราบชนิด จำนวน 1 ลูก ลูกกระสุนปืน ขนาด .50 นิ้ว จำนวน 5 นัด ลูกกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 14 นัด ลูกกระสุนปืน ขนาด .30 นิ้ว จำนวน 12 นัด ลูกกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 72 นัด ลูกกระสุนปืนพก ขนาด .38 นิ้ว จำนวน 1 นัด นำเอามาส่งมอบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากเกรงกลัวความผิดตามกฎหมายที่มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 18.15 น. วันนี้ (2 ก.ค.) ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เชิญประชุมเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษ ป้องกันจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้นำเอาระเบิดและกระสุนปืนอาวุธสงครามมามอบให้ศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษ เนื่องจากอาวุธสงครามมีจำนวนมากและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่าอาวุธสงครามทั้งหมดมีพลเมืองดีชื่อ นางปวีณา สระ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.6 ชุมชนหนองยาง ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และสามี ได้นำมามอบให้ศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษ ร่วมกันตรวจสอบอาวุธสงครามทั้งหมด

จากการสอบถาม นางปวีณาแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่นางปวีณาและสามีได้ไปดูแลสวนของตนเอง และกำลังเดินตรวจอยู่ท้ายสวนนั้น ได้พบระเบิดและกระสุนปืนจำนวนมากกองรวมกันอยู่ โดยไม่ทราบว่าอาวุธสงครามทั้งหมดมาจากที่ใดและใครนำเอามาทิ้งไว้ ดังนั้นจึงได้นำเอาระเบิดและกระสุนปืนทั้งหมดบรรจุใส่ตระกร้านำเอามามอบให้ทหารและเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมศรีสะเกษ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดลูกระเบิดและลูกกระสุนปืนทั้งหมดเอาไว้ จากนั้นได้นำไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว

นายยุทธนากล่าวต่อว่า ขอฝากถึงประชาชนว่า จ.ศรีสะเกษมีเขตพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา อาจมีอาวุธสงครามต่างๆ หลงเหลืออยู่ ซึ่งหากประชาชนไปพบอาวุธสงครามอยู่ที่ใดควรใช้ความระมัดระวังไม่เข้าไปใกล้และหยิบจับต้องอย่างเด็ดขาด เพราะอาวุธสงครามทุกประเภทโดยเฉพาะวัตถุระเบิดมีอำนาจการทำลายล้างสูง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่อยู่ในพื้นที่ที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่หรือในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อจะได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญมาทำการเก็บกู้อาวุธสงครามไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหากประชาชนพบอาวุธสงครามเมื่อได้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้รับทราบแล้วจะไม่มีความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด ยกเว้นการมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองเท่านั้นที่จะมีความผิดตามกฎหมาย