ศูนย์ข่าวศรีราชา -ชาวบ้านแหลมฉบังโวยไม่ได้รับความเป็นธรรมเวนคืนจากโครงการสร้างถนนแยกทางหลวงหมายเลข 7 ของทางหลวงชนบท พร้อมขอราคาค่าเวนคืนตามราคาซื้อขายปัจจุบัน
วันนี้ (30 มิ.ย.) นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงรายละเอียดการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ งานสำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์ ถนนสานทางแยกทางหลวงหมายเลข 7 กม.ที่ 107+200 ถึงท่าเรือแหลมฉบังพร้อมคณะผู้บริหารของเทศบาลนครแหลมฉบัง โดยมีประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการเวนคืนที่ดินประมาณ 200 คนเข้าร่วม
นายสมเกียรติ ชัยประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานจัดหาที่ดินและการมีส่วนร่วมเพื่อการก่อสร้าง กรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า การชี้แจงรายละเอียดการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ต่อกรมทางหลวงชนบท งานสำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์ ถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 7 (กม.ที่ 107+200) ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลบึง และตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2556 ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักการแนวทางการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจเชื่อมโยงฝั่งตะวันตกกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า และในการประชุมหารือดำเนินงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเชื่อมโยงด่านบ้านพุน้ำร้อน กับพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) ท่าเรือแหลมฉบัง และแหล่งเศรษฐกิจฝั่งตะวันออกของไทย ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2555 โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมทางหลวงชนบท ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายถนนเพื่อเชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 (Motorway) บริเวณ กม.107+200 ถึงท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
โดยแขวงการทางชลบุรี ได้กำหนดให้มีการชี้แจงรายละเอียดโครงการ และให้ความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนต่อผู้ที่ถูกเวนคืน หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ และการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ที่ถูกเวนคืน ขั้นตอนการดำเนินงานของโครงการ หลักเกณฑ์การพิจารณาค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิหน้าที่ของผู้ถูกเวนคืน รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสในการรับฟังข้อมูลแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดราคาค่าทดแทนต่อไปซึ่งจะต้องแล้วเสร็จในการเวนคืนประมาณเดือนสิงหาคม ปี 2558 และจะดำเนินการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2559
ด้านนายบุญเลิศ น้อมศิลป์ อดีตนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง กล่าวว่า การที่ชาวบ้านถูกเวนคืนเพื่อดำเนินการโครงการของรัฐ ถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่ได้เสียสละให้แก่ส่วนรวมอย่างมาก ดังนั้นทางโครงการจะต้องมีการตอบแทนความเสียสละตรงนี้ให้เหมาะสม เช่น เรื่องราคาที่ดินเวนคืน ควรที่จะให้ในราคาที่เหมาะสม เป็นราคาที่มีการซื้อขายกันจริง ไม่ใช่ใช้ราคาประเมินของกรมที่ดิน ซึ่งไม่ตรงกับราคาซื้อขายกันในปัจจุบัน เพราะให้ราคาที่ต่ำกว่า ชาวบ้านเอาเงินส่วนต่างที่ไหนไปซื้อที่ดินเพื่อมาอยู่อาศัยใหม่ ซึ่งจะเกิดปัญหาสังคมตามมาแน่นอน
นอกจากนี้ ในกาก่อสร้างควรที่จะทำให้รวดเร็ว เพราะมีจะปัญหาเรื่องของการจราจรตามมา รวมถึงระบบน้ำประปา และไฟฟ้า ควรที่จะมีการวางแผนประสานงานกับทั้ง 2 หน่วยงานให้ดำเนินการไปพร้อมกัน เพราะในอนาคตหากมีถนนแล้วอีกไม่นานน้ำไฟก็ต้องเข้าถึง หากไม่วางแผนทำไปพร้อมกัน ในอนาคตก็ต้องมาขุดถนนวางแนวท่ออีก ซึ่งเป็นการสิ้นเปลือง เสียทั้งเวลา และงบประมาณ ฝากให้ทางกรมทางหลวงชนบท นำไปพิจารณาตามนี้ เพราะทั้งหมดนี้คือความต้องการของประชาชน