ตาก - ทหารกะเหรี่ยง KNU กักรถบรรทุกก๊าซปิโตเลียมเหลว จากฝั่งไทย 7 คัน เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตนำเข้าเมียนมาร์ ทางด้าน ผบ.ฉก.ร.4 ชี้แจง เป็นเพียงกักเพื่อตรวจสอบ
วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตากว่า กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU ได้ทำการกักรถยนต์บรรทุกก๊าซปิโตเลียมเหลว ของบริษัทสยามแก๊ส ทั้งหมด 7 คัน จากเขตไทยที่ผ่านด่านพรมแดนไทย -พม่า ด่านพรมแดน แม่สอด - เมียวดี ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่าที่บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด
โดยทหารกะเหรี่ยง KNU ได้บันทึกภาพโชว์การควบคุมรถยนต์จากเขตไทย เพื่อขอตรวจสอบ และอ้างว่า รถยนต์บรรทุกจากเขตไทย ผ่านสะพานมิตรภาพไทย -พม่า ที่ได้กำหนดว่า ห้ามรถยนต์บรรทุก เกิน 25 ตัน ซึ่งเหตุการณ์การควบคุมรถยนต์ ที่เกิดขึ้น สร้างความสับสนให้กับ หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยมาก เพราะรถยนต์บรรทุกแก๊ส ที่ผ่านสะพานมิตรภาพไทย - พม่า ไปนั้น ถือว่า ได้ผ่านพิธีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ไทยเช่น ศุลกากร และหน่วยงานอื่นๆ ที่ร่วมตรวจสอบ
พ.อ.โสภณ นันทสุวรรณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด จ.ตาก ชี้แจงว่า เรื่องนี้ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่า ของ พ.ต.ต.ติ่นทุด หัวหน้าตำรวจพม่า จังหวัดเมียวดี ที่กำลังประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-พม่า ครั้งที่ 33 เมื่อเช้าวันนี้ (26 มิ.ย.) ทราบว่า เป็นการตรวจสอบ เรื่องน้ำหนักมากกว่า ซึ่งทางฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่าทางแขวงการทางตาก ที่ 2 แม่สอด ของไทยสามารถอนุญาตให้รถยนต์บรรทุกมีน้ำหนักไม่เกิน 50- 60 ตัน สามารถผ่านสะพานมิตรภาพไทย - พม่า ได้ จากเดิมกำหนด 25 ตัน ซึ่งทางฝ่ายพม่า นั้นเข้าใจ ดีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นมีกระแสข่าวว่า ชาวบ้านที่จังหวัดเมียวดีได้ทำการร้องเรียนว่า รถบรรทุกของฝั่งไทยบรรทุกน้ำหนักเกินขึ้นสะพานมิตรไทย-พม่า บ่อยครั้งจนทำให้ตอม่อสะพานเริ่มชำรุด นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า การถูกกักรถบรรทุกครั้งนี้มีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจใบอนุญาตขนแก๊สเข้าเมียนมาร์แต่คนขับรถบรรทุกแก๊สทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตดังกล่าว