xs
xsm
sm
md
lg

บุกทลาย รง.ผลิตเหล้าเถื่อนเคลื่อนที่ ชี้เป็นแหล่งใหญ่ส่งขายในนครพนม-สกลนคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สรรพสามิตนครพนม โชว์ผลงานเด่นทลายแหล่งผลิตเหล้าเถื่อนเคลื่อนที่
นครพนม - สรรพสามิตนครพนมสนธิกำลังทลายโรงงานผลิตเหล้าเถื่อนแหล่งใหญ่ในอำเภอศรีสงคราม เผยส่งขาย 2 จังหวัดนครพนมและสกลนคร พร้อมยึดของกลางอื้อ คาดลอบเปิดมาหลายปี ทำเงินเดือนละหลายแสน ใช้วิธีตั้งโรงงานเคลื่อนที่ในป่าท้ายหมู่บ้านตบตาเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เตือนมีโทษถึงติดคุก

วันนี้ (24 มิ.ย. 58) นายละนอง แก้วศรีช่วง สรรพสามิตพื้นที่จังหวัดนครพนม ประสานงานร่วมกับนางสำรวย ภัทรกุลกีรติ สรรพสามิตพื้นที่จังหวัดสกลนคร, นายกิตติ เนตรครุฑ สรรพสามิตพื้นที่สาขา อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ระดมชุดเฉพาะกิจเข้าตรวจสอบจับกุมทลายโรงงานผลิตสุราเถื่อนแหล่งใหญ่ ในพื้นที่บ้านปากยาม หมู่ 4 ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เขตติดต่อ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ภายหลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดโรงงานต้มเหล้าเถื่อนผิดกฎหมาย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปปราบปรามจับกุม

จึงระดมกำลังเข้าไปตรวจยึดจับกุมแหล่งผลิตเหล้าเถื่อน ซึ่งเปิดเป็นโรงงานต้มเหล้าเถื่อนแหล่งใหญ่ในป่าท้ายหมู่บ้านรวม 7 จุด และพร้อมที่จะคลื่อนที่เลี่ยงการจับกุม สามารถตรวจยึดอุปกรณ์ต้มเหล้ากลั่นที่ผลิตขึ้นเอง รวม 15 ชุด สุราแช่จำนวน 1,800 ลิตร และสุรากลั่นจำนวน 40 ลิตร ตรวจยึดเป็นของกลาง

นอกจากนี้ ยังได้ขยายผลจับกุมเจ้าของโรงงานแหล่งผลิตเหล้าต้มเถื่อน 4 ราย มีนายเขียว จุลพรหม อายุ 54 ปี ในข้อหามีสุราไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สุรา 2493 นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ส่วนอีก 3 รายมี นางติ๋ม ธรรมวงษา อายุ 45 ปี นางสาวเสมียน เตียงไชย อายุ 49 ปี และนางจันทน์ผา มอม อายุ 46 ปี ชาวบ้านปากยาม ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ในข้อหาทำสุรา มีภาชนะเครื่องต้มกลั่นทำสุรา มีสุราไว้ในครอบครอง ขายสุรา โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยนายละนอง แก้วศรีช่วง สรรพสามิตพื้นที่นครพนม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นแหล่งผลิตสุรารายใหญ่ วางจุดต้มกลั่นสุราในป่าท้ายหมู่บ้านมากถึง 7 จุด เชื่อว่าได้ทำมานาน ซึ่งมีความชำนาญทำแบบโรงงานเคลื่อนที่เลี่ยงการตรวจสอบจับกุมของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นได้ตรวจยึดภาชนะอุปกรณ์กลั่นต้มเหล้าแบบภูมิปัญญาชาวบ้านหลายรายการ คาดว่ามีการลักลอบทำมานานหลายปีเพื่อส่งขายไปยังพื้นที่ จ.สกลนคร และนครพนม

เชื่อว่าจะมีเงินสะพัดเดือนละนับแสนบาท เนื่องจากเป็นที่นิยมของชาวบ้านขายตามงานบุญประเพณีแกลลอนละประมาณ 200 บาท เดือนหนึ่งน่าจะขายได้มากพอสมควร โดยได้จับกุมเจ้าของดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตรวจสอบแล้วไม่ขออนุญาตตามกฎหมาย จึงฝากเตือนไปยังประชาชน หรือผู้ประกอบการที่สนใจไปทำเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงที่ทำอยู่แต่ไม่มีใบอนุญาต จะปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด หากตรวจพบจับดำเนินคดีทันที มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น