“หนองคาย” เปิดเวทีชี้แจงโรงไฟฟ้าจากขยะ หลังชาวบ้านคัดค้าน

หนองคาย - จังหวัดนำคณะทำงาน 3 ฝ่ายเกี่ยวข้องจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เปิดเวทีแจงข้อมูลแก่ประชาชน หลังมีชาวบ้านคัดค้านการก่อสร้าง หวั่นกระทบคุณภาพชีวิต และก่อมลพิษ เล็งเดินหน้าเปิดเวทีให้ครบทุกพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้า

วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ศาลาประชาคมบ้านสร้างพอก หมู่ 1 ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย คณะทำงานเพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับประชาชนกรณีการก่อสร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้พลังงานขยะ มี ร้อยเอก จำนง แสงกุดเรือ นายทหารยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นำคณะ ซึ่งมี นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย แต่งตั้งขึ้นเป็นตัวแทน 3 ฝ่าย

ประกอบด้วย สาธารณสุขจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นายก อบจ. นายก อบต.ในพื้นที่ ผู้ใหญ่บ้าน 10 หมู่บ้าน นิติกรสำนักงานจังหวัด

ฝ่ายที่สองตัวแทนของบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด เจ้าของโรงงาน และฝ่ายที่สาม ตัวแทนชาวบ้านที่คัดค้าน มารับฟังข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สอบถามข้อสงสัย โดยจะจัดเวทีลักษณะนี้วันที่ 22-26 มิ.ย. ใน 10 หมู่บ้านของ ต.โพนสว่าง

นายจีรภัทร์ โตมโหฬารทวีศรี ตัวแทนบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นขอจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานขยะมาตั้งแต่ปี 2554 และได้รับการอนุญาตจัดตั้งโรงงานบนพื้นที่ 210 ไร่ เป็นพื้นที่โรงไฟฟ้า 40 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่สีเขียวของโรงงาน มีการทำสัญญารับขยะจากพื้นที่ อ.เมือง และใกล้เคียงเข้าสู่ระบบกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มาตรฐาน ปล่องไฟสูง 60 เมตร ยืนยันว่าไม่มีมลพิษทั้งอากาศ น้ำเสีย กลิ่น

โดยทางโรงงานขอให้ชาวบ้านมาร่วมเป็นกรรมการตรวจรถขนขยะ ที่จะขับเข้าสู่โรงงาน ถ้าไม่ได้มาตรฐานจะไม่อนุญาตให้ผ่าน รวมถึงโรงงานไม่รับขยะสารพิษทุกชนิดเข้ามาเผา ส่วนเถ้าจากการเผาขยะนั้น แยกเป็นเถ้าเบาจะส่งไปกำจัดที่ จ.สระบุรี ส่วนเถ้าหนักจะส่งไปยัง จ.ภูเก็ต ซึ่งทั้งสองแห่งได้ทำข้อตกลงกันไว้แล้ว ที่ผ่านมาได้พาชาวบ้านส่วนใหญ่ไปชมโรงงานต้นแบบที่ จ.ภูเก็ต ทำให้เห็นภาพของโรงงานชัดเจนมากขึ้น

ขณะที่ตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชี้แจงว่า ทางโรงงานได้ขออนุญาตถูกต้อง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเอกสาร เครื่องจักรที่ใช้ และอื่นๆ รอบด้านแล้ว เช่นเดียวกับเรื่องมลพิษที่เป็นห่วง จากข้อมูลพบว่าโรงงานขออนุญาตผลิตไฟฟ้าจากขยะขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นเวลา 20 ปี ตามอายุของเครื่องจักรที่ใช้ หากชาวบ้านยังไม่สบายใจให้หมั่นตรวจสอบและแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ในส่วนภาครัฐมีคณะทำงานตรวจสอบทุกกระบวนการอยู่แล้ว หากโรงงานทำไม่ถูกต้องก็จะพิจารณาระงับใบอนุญาตได้

อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นของชาวบ้านมีสองฝ่าย ทั้งฝ่ายเห็นด้วยอยากให้มีโรงงานเกิดขึ้น และกลุ่มที่ยังคัดค้าน ซึ่งตัวแทนชาวบ้านกลุ่มคัดค้านได้สอบถามความชัดเจนของปริมาณขยะ และรูปแบบการกำจัดขยะของจังหวัดในปัจจุบัน โดยเกรงว่าจะมีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ผิวดิน เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้น้ำใต้ดินเป็นหลัก และยังคงมีชาวบ้านบางส่วนไม่อยากให้มีโรงงานเกิดขึ้นในพื้นที่