xs
xsm
sm
md
lg

กักตัว “หญิงบุรีรัมย์” นั่งใกล้ผู้ป่วยเมอร์ส จนท.ยังไม่พบอาการผิดปกติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ญาติพี่น้องผู้โดยสารชาว จ.บุรีรัมย์ เสี่ยงสัมผัสเชื้อเนื่องจากนั่งใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคเมอร์สชาวโอมาน ไม่ตื่นตระหนก ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ วันนี้ (  20 มิ.ย.)
บุรีรัมย์ - พบตัวหญิงวัย 38 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่กระทรวงสาธารณสุขระบุนั่งใกล้ผู้ป่วยโรคเมอร์สรายแรกของไทย ที่เดินทางกลับมาจากตะวันออกกลางแล้ว ขณะ จนท.สาธารณสุขอำเภอ จังหวัด รุดลงพื้นที่สอบสวนโรค พร้อมกักตัวห้องแยกโรคสังเกตอาการ 14 วัน วัดไข้เบื้องต้นยังไม่พบอาการผิดปกติ ขณะญาติใช้ชีวิตปกติไม่ได้ตื่นตระหนก

วันนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงว่า มีผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินกลับมาจากประเทศโอมาน พร้อมกับชายชาวตะวันออกกลาง อายุประมาณ 70 ปี ที่ตรวจพบเชื้อเมอร์สรายแรกในไทย และระบุว่า มีผู้โดยสารชาว จ.บุรีรัมย์ เสี่ยงสัมผัสเชื้อเนื่องจากนั่งใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายดังกล่าว และกำลังเร่งตามหาตัวนั้น ล่าสุด ทราบตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวแล้ว ชื่อ นางฉลวย อามาตเสนา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.3 บ้านโคกหัวเสือ ต.ยายแย้มพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์

แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าว พบเพียง นางนวล อามาตเสนา อายุ 72 ปี และนายยงศักดิ์ อามาตเสนา อายุ 52 ปี แม่ และพี่ชายเท่านั้น แต่ไม่พบตัวนางฉลวย เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และจังหวัดบุรีรัมย์ เข้ามาตรวจสุขภาพร่างกายพร้อมวัดไข้ แล้วได้รับตัวไปเพื่อสอบสวนโรคและกักตัวไว้ที่ห้องแยกโรคเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ตามขั้นตอนเป็นเวลา 14 วัน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ แต่ก็ไม่พบตัวนางฉลวย พบเพียงห้องแยกโรคที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้สำหรับแยกตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสุขภาพ และวัดไข้นางฉลวย เบื้องต้นไม่พบมีอาการไข้ผิดปกติแต่อย่างใด ขณะที่ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ตื่นตระหนกต่อกรณีดังกล่าว

ด้าน นายยงศักดิ์ อามาตเสนา พี่ชาย บอกว่า น้องสาวได้ไปทำงานกับเพื่อนที่ประเทศโอมาน ขากลับทราบว่า ได้เดินทางมาในไฟล์บินเดียวกัน และนั่งใกล้กับชายที่ตรวจพบติดเชื้อโรคเมอร์สรายแรก แต่หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบยังไม่พบมีไข้ หรืออาการผิดปกติ

ขณะที่ครอบครัวก็ไม่ได้กังวลอะไรยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่อยากฝากถึงผู้เกี่ยวข้องว่าไม่ควรที่จะนำกรณีของน้องสาวมาเผยแพร่ต่อสาธารณะชน เนื่องจากตัวน้องสาวเพียงนั่งใกล้กับผู้ป่วยเท่านั้น ยังไม่ได้ยืนยันว่าติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตัวน้องสาว และครอบครัวได้


รพ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์


กำลังโหลดความคิดเห็น