บุรีรัมย์ - สสจ.บุรีรัมย์ สั่งเร่งตรวจสอบหาตัวผู้โดยสารชายที่นั่งมาในไฟลต์บินเดียวกับชายชาวโอมานที่ติดเชื้อโรคเมอร์ส เบื้องต้นทราบเพียงว่าเป็นชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ เร่งติดตามตัวเพื่อเฝ้าระวังสอบสวนโรค พร้อมกำชับสาธารณสุขทุกอำเภอ และ รพ.ทุกแห่งเตรียมพร้อมรับมือโรคเมอร์ส
วันนี้ (20 มิ.ย.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคเมอร์สรายแรกในไทย เป็นชายวัย 75 ปี ชาวโอมาน เดินทางโดยเครื่องบินมาจากตะวันออกกลาง ทั้งมีข้อมูลว่าได้มีผู้โดยสารที่นั่งมาในไฟลต์บินดังกล่าว จำนวน 106 คน หนึ่งในนั้นเป็นชายชาว จ.บุรีรัมย์ ที่นั่งชิดกับผู้ป่วยนั้น จากการตรวจสอบพบเบื้องต้นทราบเพียงว่า ชายคนดังกล่าวมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวเพื่อทำการเฝ้าระวัง และสอบสวนโรคตามขั้นตอน
พร้อมกันนี้ ยังได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่จังหวัด ทั้งโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวมถึงสาธารณสุขอำเภอ ได้เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังโรคเมอร์ส โดยให้เน้นการตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการตรวจรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ให้ทำการซักประวัติอย่างละเอียด ว่า มีอาการไข้หวัด เจ็บคอ หรือมีประวัติเดินทางกลับจากต่างประเทศหรือไม่ โดยเฉพาะ 10 ประเทศ ทางตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้ ที่กำลังมีการระบาดของโรคดังกล่าวอยู่ในขณะนี้
นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้สาธารณสุขทุกอำเภอ รวมถึง รพ.สต. และ อสม.ออกติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน พร้อมทั้งแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคเมอร์สแก่ประชาชนในหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ เพื่อให้เกิดการตื่นตัวในการเฝ้าระวัง และป้องกันตนเองด้วย
นพ.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ฝากถึงประชาชน หรือผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบตะวันออกกลาง หรือประเทศที่มีความเสี่ยงที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับโรคดังกล่าวหากเป็นไปได้ควรจะหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้ พร้อมทั้งควรหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ผู้สูงอายุ และเด็ก เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรคดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ประชาชนไม่ควรจะตื่นตระหนกต่อกระแสการระบาดของโรคดังกล่าวมากจนเกินไป เพราะประเทศไทยมีระบบการเฝ้าระวังป้องกันที่เข้มข้นอยู่แล้ว