ชาวนา-สวนกล้วยเมืองอ่างทอง ครวญประสบปัญหาภัยแล้งหนักหนี้ท่วม

อ่างทอง - ชาวนาในพื้นที่อำเภอไชโย และชาวสวนกล้วยเมืองอ่างทอง ครวญประสบปัญหาภัยแล้งหนัก วอนให้รัฐบาลช่วยเหลือหลังขาดรายได้ และมีหนี้สินมาก

วันนี้ (16 มิ.ย.) นายทรงยศ มะกรูดทอง ประธานเกษตรกรอำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยถึงปัญหาภัยแล้งในช่วงนี้ว่า ขณะนี้ชาวนาทั่วทั้งจังหวัดอ่างทอง กำลังประสบปัญหาไม่มีน้ำทำนาอย่างหนัก และการที่ชลประทานประกาศให้ชาวนาชะลอการทำนาในฤดูนาปีออกไปก่อนนั้น ตนเกรงว่า เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวชาวนาคงจะต้องลงไปเกี่ยวข้าวในน้ำกันอย่างแน่นอน ซึ่งจะเป็นความเสียหายที่ซ้ำซ้อนจากภัยแล้ งจนไปถึงถูกน้ำท่วม ทั้งนี้ เนื่องจากในพื้นที่ทุ่งไชโย ทุ่งราชสถิตย์ และทุ่งเทวราช อำเภอไชโย นั้นเป็นทุ่งนาที่ลุ่ม และเป็นพื้นที่รองรับน้ำในฤดูน้ำหลากทุกปี

“อยากวิงวอนให้รัฐบาลช่วยหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรชาวนา ชาวไร่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และน้ำท่วมที่ต้องประสบปัญหากันเป็นประจำทุกปีด้วย เนื่องจากชาวนาแทบทุกคนล้วนแต่มีหนี้สินผูกพันต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กันทั้งนั้น ซึ่งที่ผ่านมา ทางสภาเกษตรจังหวัดอ่างทอง ได้เคยเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลในเบื้องต้นในการชำระหนี้ไปแล้ว โดยอยากให้ช่วยยืดระยะเวลาการชำหนี้ หรือผ่อนผันการชำระหนี้รวมถึงการงดดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกรที่ทำการกู้ยืมเงินมาจาก ธ.ก.ส.เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้จากหลังหยุดทำนา และต้องชะลอการปลูกข้าวออกไป เนื่องจากทำให้ขาดรายได้หาเลี้ยงครอบครัว และจ่ายหนี้สิน” นายทรงยศ กล่าว

ด้าน นายบำรุง กันภัย อายุ 43 ปี ชาวสวนกล้วย อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 3 ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนได้ทำสวนกล้วย และสวนไผ่ลืมแล้ง จำนวน 4 ไร่ โดยต้นกล้วยน้ำว้ากาบขาว จะขายได้ทั้งใบตอง และเครือกล้วย โดยแต่ละวันตนจะเก็บไปขายตลาดสร้างรายได้วันละ 300-400 บาท แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เกิดภัยแล้งหนัก ไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นกล้วย ทำให้ต้นกล้วยเกิดการแห้งเหี่ยว และหักโค่นรอวันตายยกสวน ทำให้ตนขาดรายได้มาหลายเดือนแล้ว

“ส่วนสวนไผ่ลืมแล้ง ที่ตัดหน่อขายก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งเช่นกัน คือ ไผ่ไม่ยอมออกหน่อ ซึ่งทำให้ผมเครียดหนักไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่เฝ้ารอฝนที่จะตกลงมาหล่อเลี้ยงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตอนแรกคิดว่าจะไปจ้างขุดบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นไม้ในสวน แต่ไม่มีเงินทุน และไม่อยากเป็นหนี้เพิ่ม จึงได้แต่เฝ้ารอให้ฝนตกลงมาเพื่อทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติกลับคืนมาอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน” นายบำรุง กล่าว