อุตรดิตถ์ - แล้งคุกคามหนัก ชุมชนริมขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ยังหนีไม่พ้น หลังน้ำเหนือเขื่อนลดลงต่อเนื่อง ต้องลากแพท่องเที่ยว-ที่พักไล่ตามน้ำไปไกลกว่า 2 กม. แถมน้ำต้นทุนทำน้ำประปาแห้งขอด ต้องร้องขอ อปท.-เขื่อน-เจ้าหน้าที่สวนป่าขนน้ำมาแจก
นายประณพ ใจตุ้ย อดีตผู้ใหญ่บ้านท่าเรือ หมู่ 9 ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า บ้านท่าเรืออยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์หรือขอบอ่างประมาณ 120 ครอบครัว ประชากร 400 คน ส่วนใหญ่มีอาชีทำการประมง และท่องเที่ยว มีแพทัวร์ แพที่พักให้บริการนักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ อ.ท่าปลา และของจังหวัด แต่หลังจากน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านท่าเรือ ประสบกับภัยแล้ง ต้องชักลากแพทัวร์ แพที่พักไล่ตามระดับน้ำเป็นระยะทางราว 2 กิโลเมตร
นายประณพกล่าวว่า ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ลดลงมากทำให้บ้านท่าเรือประสบภัยแล้งหนัก แม้อยู่ติดกับขอบอ่างก็ตาม เนื่องจากน้ำที่ใช้ผลิตประปาแห้งขอดหมดทุกแห่ง ต้องร้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เขื่อนสิริกิติ์ และสวนป่า อ.ท่าปลา แต่แทนที่จะนำน้ำไปเติมแท็งก์น้ำของหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนนำภาชนะไปขนมาที่บ้าน แต่กลับนำไปแจกตามบ้าน ทำให้ไม่ทั่วถึง คนที่ไม่อยู่บ้านก็ไม่ได้ใช้น้ำ
“สมัยที่ผมยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน เคยมีโครงการขุดลอกร่องน้ำลึกบริเวณท่าเทียบเรือเพื่อกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณมากไว้ใช้ช่วงฤดูแล้ง แม้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์จะลดระดับลงเท่าใด น้ำในร่องน้ำลึกก็ยังจะคงอยู่ เมื่อถึงฤดูแล้งก็สามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภคบริโภคได้ แต่ปัจจุบันโครงการขุดลอกร่องน้ำลึกเงียบหายไป ทำให้ชาวบ้านต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ง
สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ณ วันที่ 15 มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 133.50 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำ 3,561.05 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) น้ำใช้งานได้ 731.05 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 10.98%