ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กิจกรรมของหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี ที่ลงเฟซบุ๊กชักชวน “ส่งหมวกให้เพื่อน” นัดระดมพลมาช่วยกันบริจาคหมวกกันน็อกเพื่อสื่อให้ตำรวจได้เห็นว่าการป้องกันดีกว่าการปรับ แต่ไร้เงาชาวเฟซบุ๊ก อีกทั้งตำรวจไม่ได้มีการตั้งด่านอย่างที่คาด
วันนี้ (14 มิ.ย.) หลังจากที่นายเจษฎา ทันแก้ว หนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กตัวเองระดมพลคนในเชียงใหม่ให้ออกมาร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ “ส่งหมวกให้เพื่อน” เพื่อมอบหมวกกันน็อกให้แก่ประชาชนทั่วไปที่สัญจรไปมาโดยที่ไม่ใส่หมวกกันน็อก และสื่อให้กับทางตำรวจได้เห็นถึงการป้องกันดีกว่าการปรับเป็นเงิน บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ปรากฏว่าบรรยากาศโดยทั่วไปที่มีการนัดกันตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น. บริเวณเชิงสะพานนวรัตน์-หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไม่คึกคักเท่าที่ควร ไม่มีการตั้งด่านตรวจของตำรวจจราจรแต่อย่างใด มีเพียงประชาชนมาช่วยบริจาคหมวกกันน็อกไม่ถึง 5 ใบ ส่วนใหญ่จะมาเป็นกำลังใจและส่งน้ำดื่มให้เท่านั้น และเป็นที่น่าสังเกตว่าปกติแม้จะเป็นวันอาทิตย์แต่บริเวณตรงข้ามจวนผู้ว่าฯ หรือเชิงสะพานนวรัตน์ จะมีการตั้งด่านตรวจแต่ในวันนี้กลับไม่มีการตั้งด่านแต่อย่างใด
นายเจษฎา ทันแก้ว เล่าว่า การออกมาแสดงออกการปฏิรูปตำรวจในครั้งนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว โดยครั้งแรกได้ไปยืนถือป้ายจะไปยืนอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยวันแรกๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีปฏิกิริยาที่ไม่ค่อยเห็นชอบกับการออกมาแสดงออกแบบนี้ แต่พอได้เล่าให้ฟังถึงวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปตำรวจ ที่ไม่ได้หมายถึงความเกลียดชังที่มีต่อตำรวจ แต่เป็นการออกมาแสดงความคิดที่อยากจะให้องค์กรตำรวจมีการเปลี่ยนแปลงออกมาทางที่ดีและให้ข้อมูลด้านกฎหมายให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้น ซึ่งมีกฎหมายหลายข้อที่อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างตำรวจกับประชาชนและตัวตำรวจเองก็อาจเคยตั้งคำถามที่อยากจะปฏิรูปหน่วยงานของตนเอง อย่างน้อยก็คนละ 1 ข้อ
ทั้งนี้ การออกมาถือป้ายในการแสดงออกครั้งนี้ไม่ได้ต้องการให้มีการเกียจชังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเชื่อว่าคนไทยกว่า 60 ล้านคน มีคนละ 1 เหตุผลที่อยากจะให้มีการปฏิรูปตำรวจและสิ่งเดียวที่เห็นตรงกันคือ อยากจะสนับสนุนให้ปฏิรูปตำรวจตามที่นโยบายของภาครัฐได้วางมาตรการ
“ผมไม่ใช้นักกฎหมาย ผมเป็นแค่ประชาชน ผมแค่อยากเห็นการปฏิรูปตำรวจให้เกิดขึ้นซักที จึงได้มาแสดงความคิดเห็นโดยไม่ก้าวก่ายในการทำงานของเขา เราเพียงแค่สนับสนุนให้ตำรวจเห็นว่า มีคนไทยรอที่อยากจะให้ภาครัฐลงมือในการปฏิรูปอย่างจริงจังเสียที”
นายเจษฎาบอกว่า สำหรับวันนี้เป็นกิจกรรม “ส่งหมวกให้เพื่อน” ซึ่งจะมีการขอรับบริจาคหมวกกันน็อกจากผู้ที่มีจิตอาสาอยากจะให้ผู้ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อกได้สวมใส่เพื่อความปลอดภัย ประกอบกับเพื่อให้เจ้าหน้าที่เห็นว่า การป้องกันนั้นดีกว่าการปรับและโดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับการปรับเป็นเงิน แต่บางกรณีก็น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่าที่จะปรับเป็นเงินเพียงอย่างเดียว
การรณรงค์ครั้งนี้จะรวบรวมผลเพื่อส่งให้กับกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ลงมาให้ความรู้กับประชาชนให้เกิดความมีระเบียบมากขึ้น และไม่ได้สนับสนุนให้ประชาชนกับตำรวจเกลียดกัน เพียงแต่มาเพื่อการลดช่องว่างระหว่างประชาชนกับตำรวจให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อจะขับเคลื่อนสังคมให้อยู่อย่างมีความสุข
กิจกรรม “ส่งหมวกให้เพื่อน” จะจัดขึ้นอีกในทุกวันอาทิตย์แต่จะเปลี่ยนสถานที่ไปทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมแบบนี้ต่อไป “วันนี้เป็นวันแรกและมีคนมาร่วมน้อยแต่ก็ไม่ท้อ อาจเป็นเพราะการรับรู้ยังไม่แพร่หลาย เราก็ยังจะทำต่อไปเรื่อยๆ สักวันจะต้องมีคนเข้าใจและเข้ามาร่วมกิจกรรมกันมากขึ้น” นายเจษฏากล่าว