ชาวบ้านปราจีนร้องมีผู้ลักลอบทิ้งสารอันตรายลงแม่น้ำพระปรง

ปราจีนบุรี - ชาวบ้านปราจีนบุรี ทนไม่ไหวร้องสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยหาสาเหตุที่น้ำในแม่น้ำพระปรงกลายเป็นสีเขียวทั้งสาย ส่งผลกระทบชาวบ้านสองฝั่งกว่า 2 พันครัวเรือน ต้องซื้อน้ำกินน้ำอาบ บางรายเกิดอาการคันตามร่างกายหลังอาบน้ำประปาที่ทำจากแม่น้ำสายนี้

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายสงัด เงินเรือง สมาชิก อบต.หมู่ 7 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำพระปรง พิสูจน์น้ำในแม่น้ำกลายเป็นสีเขียวตลอดลำน้ำ คล้ายมีสารบางอย่างปนเปื้อน ส่งผลให้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านไม่ได้ เนื่องจากนำไปผลิตไปแล้วน้ำยังมีสีเขียวไม่สามารถกรองเอาสีเขียวออกได้ จนชาวบ้านไม่สามารถนำไปใช้ตามปกติ ทั้งการอุปโภค หรือแม้แต่นำไปอาบ หรือซักล้าง จนต้องซื้อน้ำถังมาอาบ และซักผ้าเพิ่มภาระ และสิ้นเปลืองมากขึ้น

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า แม่น้ำพระปรง ที่ไหลผ่านมาจาก จ.สระแก้ว ถือเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำปราจีนบุรี ปรากฏว่า ตลอดลำน้ำเป็นระยะทางนับสิบกิโลเป็นสีเขียวจนมองเห็นชัดเจน ซึ่งชาวบ้านที่นี่บอกว่า ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน พร้อมทั้งได้นำน้ำที่ตักใส่ขวดมาให้ดูก็พบว่าเป็นสีเขียว

อีกทั้งดินก้นคลองที่ควรที่จะเป็นดินปนทรายตามธรรมชาติ แต่กลับเป็นดินดำเหนียวข้นคล้ายสารหนักบางชนิดต่างจากดินธรรมชาติทั่วไป ทำให้ทางกลุ่มชาวบ้านที่ใช้น้ำในแม่น้ำพระปรงเกิดความไม่มั่นใจว่า สารที่ทำให้น้ำในแม่น้ำเปลี่ยนสีจะเป็นอันตรายหรือไม่

อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโดยเร็วว่า สีเขียวของน้ำนั้นเกิดจากอะไร และมาได้อย่างไร จะเป็นสารเคมีจากโรงงานใกล้เคียง หรือว่ามีผู้ลักลอบปล่อยน้ำจากกระบวนการผลิตในโรงงานทิ้ง เพื่อจะได้หาทางแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านทั้งสองริมน้ำแม่น้ำพระปรงที่มีมากกว่า 2 พันครอบครัว จำเป็นต้องใช้น้ำในแม่น้ำแห่งนี้ในการดำรงชีวิต

ด้านนางจำนรร กองกล่ำ อายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบบอกว่า หลังนำน้ำในแม่น้ำมาอาบก็เกิดอาการผื่นคันตามลำตัวเป็นจุดแดง ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยเป็น แต่หลังน้ำในแม่น้ำเป็นสีเขียวตนมาอาบก็ทำให้เกิดผื่นคัน พร้อมกับชูแขนที่เป็นผื่นแดงให้ผู้สื่อข่าวดูเป็นการยืนยัน