ค้นโรงสับไม้ทายาทอดีตนักการเมืองดังกาฬสินธุ์ พบไม่มีใบอนุญาต

กาฬสินธุ์ - ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนธิกำลังกับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ บุกตรวจจับโรงงานสับไม้ผลิตไฟฟ้าของทายาทอดีตนักการเมืองชื่อดังกาฬสินธุ์ ตรวจพบไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงงาน และพบไม้หวงห้ามจำนวนมาก

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.2 (ดงแม่เผด) ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจ สภ.กมลาไสย เจ้าหน้าที่สำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ สนธิกำลังกันเข้าตรวจสอบโรงงานสับไม้ ตั้งอยู่บริเวณถนนกมลาไสย-ร้อยเอ็ด

หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า โรงงานดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาต และยังนำไม้หวงห้ามเข้ามาสับเพื่อส่งผลิตพลังงานไฟฟ้า จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่า โรงงานสับไม้ดังกล่าว ชื่อบริษัท C&S ฟาวเวอร์ จำกัด ตั้งอยู่ถนนกมลาไสย-ร้อยเอ็ด เลขที่ 193 หมู่ที่ 3 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นโรงงานไม้ชิ้นสับ โดยใช้ไม้ยูคาลิปตัสสับละเอียดเพื่อนำไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า

จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ยังพบไม้หวงห้ามหลายชนิด ทั้งไม้มะพอก ไม้ประดู่ ไม้เหยียง ไม้พฤกษ์ ไม้พลวง ไม้มะค่าแต้ ที่แปรูป และเป็นท่อนจำนวน 60 ท่อน วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วโรงงาน เพื่อเตรียมที่จะสับละเอียดนำไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งโรงงานดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงานจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานอุตสาหกรรม

ระหว่างการตรวจสอบเจ้าของโรงงาน หรือผู้จัดการห้างหุ้นส่วนไม่มาแสดงตัว แต่สอบถามคนงานทราบว่า ที่ผ่านมาโรงงานดังกล่าวเป็นของนายชานุวัฒน์ วรามิตร อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ ประธานสโมสรฟุตบอลกาฬสินธุ์ เอฟซี แต่ต่อมาได้มอบให้ น.ส.ภัทรา วรามิตร น้องสาว ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ เนื่องจากต้องลงสมัครเลือกตั้ง ทั้ง 2 คนเป็นลูกชาย และลูกสาวของนายสมบัติ วรามิตร และนางชม้อย วรามิตร อดีตนักการเมืองชื่อดัง ทั้ง ส.ว.กาฬสินธุ์ และนายก อบจ.กาฬสินธุ์

เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไม้ไว้เป็นหลักฐาน และทำบันทึก พร้อมส่งเรื่องไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส่วนกลาง เพื่อดำเนินการสอบสวน เนื่องจากเป็นเครือข่ายนักการเมือง โดยต่อไปจะนำตัวคนใดคนหนึ่งเข้ามาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้แปรูปหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้ท่อนหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต