ตาก - 2 เขื่อนใหญ่ของภาคเหนือน้ำน้อย พบระดับน้ำกักเก็บเหนือเขื่อนภูมิพลเข้าขั้นวิกฤตครั้งที่ 4 ในรอบ 51 ปีแล้ว เหลือน้ำใช้ได้เพียง 4.51% ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์เหลือน้ำใช้ได้ 12.16% ต้องลดการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนแล้ว
วันนี้ (10 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เข้าสู่ภาวะวิกฤต มีน้ำกักเก็บน้อยที่สุดเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 51 ปีของการก่อสร้างเขื่อน ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2535, ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2553 (ปี พ.ศ. 2554 น้ำท่วมใหญ่ประเทศไทย) และครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา
โดยครั้งนี้เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำกักเก็บน้อยกว่าวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา 371 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกทั้งตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 58 เป็นต้นมายังไม่มีน้ำใหม่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลแต่อย่างใด ทำให้มีน้ำกักเก็บคงเหลือ 4,236 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 31.47% เหลือน้ำใช้ได้พียง 436 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 4.51%
วันนี้ (10 มิ.ย.) เขื่อนภูมิพลได้ปรับลดการระบายน้ำเหลือเพียงวันละ 11 ล้านลูกบาศก์เมตร หลังจากวันจันทร์-อังคารที่ผ่านมาระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนวันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร
เช่นเดียวกับเขื่อนสิริกิติ์ คงเหลือน้ำกักเก็บทั้งหมดเพียง 3,666 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 38.49% สามารถระบายได้เพียง 810 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 12.16% วันนี้เขื่อนสิริกิติ์ลดการระบายน้ำเหลือเพียง 22 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิมเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ระบายน้ำลงท้ายเขื่อน 30 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ตามนโยบายของรัฐบาลเตรียมปรับแผนลดการระบายน้ำตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์จริงในปัจจุบัน มีแนวโน้มจะปรับลดการระบายน้ำลงอีกเพื่อให้มีน้ำใช้ได้เพียงพอ โดยหวังว่าจะมีมรสุมเข้าตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และจะมีฝนตกลงในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่ง