บุกจับร้านลักลอบขายบารากู่ในเขตเมืองพัทยา พบของกลางมูลค่านับล้าน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - อำเภอบางละมุง บุกจับร้านลักลอบขายบารากู่ในเขตเมืองพัทยา ผงะของกลางมูลค่านับล้าน พบบางร้านปิดให้บริการ เชื่อมีนกรู้แจ้งข่าว ด้านเจ้าหน้าที่ลั่นวางมาตรการเฉียบลุยจับเข้มข้น

เมื่อเวลา 00.20 น. วันนี้ (10 มิ.ย.) นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอบางละมุง ฝ่ายป้องกันและปราบปราม นายวีระ กิติยานนท์ หัวหน้าฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ชลบุรี 2 นำกำลังฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจบุกเข้าจู่โจมจับกุมสถานบริการลักลอบจำหน่ายยาสูบบารากู่ โดยวางกำลังลงพื้นที่เป้าหมายย่านพัทยาใต้

จากการตรวจสอบร้านอลาดิน ชิซ่า เลขที่ 363/3 พัทยาซอย 16 ม.10 ต.หนองปรือ เป็นร้านให้บริการนั่งสูบยาสูบบารากู่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลาง พบอุปกรณ์การสูบ ตัวยา เตา และอะไหล่จำนวนมาก จัดวางอยู่บริเวณหลังร้าน ตรวจสอบห้องชั้น 2 ยังพบของกลางอีกส่วนหนึ่งจึงตรวจยึดไว้ทั้งหมด

ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ไปตรวจสอบร้านปารีส เลขที่ 247/67-68 ซ.เย็นสบาย ม.10 ต.หนองปรือ เป็นร้านให้บริการนั่งสูบยาสูบบารากู่เช่นกัน แต่ได้ปิดร้านเงียบเชียบ เบื้องต้นยังได้กลิ่นตัวยาบารากู่อยู่ แต่ไม่สามารถติดต่อเจ้าของสถานที่ได้ เชื่อว่าจะมีคนมาแจ้งข่าว เพราะร้านบารากู่บริเวณดังกล่าวพากันปิดเงียบต่างจากที่เคยเป็น

จากนั้นเวลา 01.00 น. ได้ไปตรวจสอบร้านอลาดิน ชิซ่า จำหน่ายเตา ถ้วย อุปกรณ์อะไหล่ เลขที่ 257/11 ซอยพัทยา 17 หน้าร้านติดป้ายระบุชื่อ Euro Gold International Co.,Ltd ซึ่งเป็นเครือเดียวกับเป้าหมายแรก พบว่า มีการปิดไฟหน้าร้าน และในร้านจนมืด เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าไปในร้านถึงกับผงะ เพราะมีการจัดวางจำหน่ายอุปกรณ์การเสพกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนตรวจยึดของกลาง และนำผู้เกี่ยวข้องไปแถลงข่าวยังที่ว่าการอำเภอบางละมุง

ทั้งนี้ ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ระหว่างรอการการตรวจยึด และขนย้ายของกลางเป็นจำนวนมากไปแถลงข่าว คณะทำงานได้เดินเท้าสำรวจภายในโครงการถนนคนเดินพัทยาใต้ หรือวอล์กกิ้ง สตรีท โดยจากการตรวจสอบร้านยูโทเปีย ร็อกเฮ้าส์ พบอุปกรณ์การเสพบารากู่ และตัวยาจำนวนหนึ่ง จึงทำการตรวจยึด จากนั้นได้กวดขันผู้ประกอบการให้ความร่วมมือห้ามจำหน่ายบารากู่ และสินค้าที่ไม่มีความเหมาะสม เช่น อาวุธ และอวัยวะเพศเทียมตามแผงลอย ก่อนพบว่าที่ร้านของ นายสัญญา แซ่อุ้ย ซึ่งตั้งแผงลอยอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ มีการลอบจำหน่ายสินค้าดังกล่าว จึงคุมตัว และตรวจยึดของกลาง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้รับเป็นเจ้าของ และเป็นผู้ดูแลจากทั้ง 3 ร้าน ประกอบด้วย นายพิเชษฐ พิมพุทธ อายุ 34 ปี นางสมหวัง ดีสวนโคก อายุ 60 ปี และนายประชา รอดน้อย อายุ 23 ปี พร้อมของกลางทั้งหมดเป็นตัวยาบารากู่รวมนกว่า 15 กก. เตาบารากู่กว่า 50 ตัว สายยาง และอุปกรณ์การเสพนับพันชิ้น ซึ่งมูลค่าซื้อรวมประมาณ 6 แสนบาท แต่ถ้าจำหน่ายจะมีมูลค่านับล้านบาท มาแถลงผลการปฏิบัติงาน โดยมี นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง นายจักรพงศ์ รัชนีกุล ปลัดอาวุโสอำเภอบางละมุง และนางสุรีย์ ศรีสุข สรรพสามิตพื้นที่ชลบุรี 2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วม

นายชาคร กล่าวว่า ตัวยาบารากู่เป็นข้อต้องห้ามไม่ให้มีไว้ครอบครองและจำหน่าย ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นห่วง และเน้นย้ำให้กวดขันกวาดล้างให้หมดไป ที่ผ่านมา อำเภอบางละมุงได้แจ้งให้สถานบันเทิง และสถานประกอบการต่างๆ รับทราบแล้ว เมื่อพบว่ายังลักลอบฝ่าฝืน ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งครั้งนี้น่าจะมีการลงโทษปรับไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท