เชียงราย - สองพ่อลูกเข้าป่าหาสมุนไพรตามแนวชายแดนไทย-พม่า หายไปร่วม 5 วัน สุดท้ายพบกลายเป็นศพถูกฆ่าปาดคอดับคาลำห้วยทั้งคู่ คาดอาจพบเห็นขบวนการนอกกฎหมาย หรือถูกกองกำลังคุ้มกันยาเสพติดฆ่าปิดปาก
วันนี้ (9 มิ.ย.) พ.ต.อ.ทรรศ์ธนสรณ์ จุฑารัตน์ ผกก.สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งพบคนถูกฆ่าเสียชีวิตพื้นที่บ้านแสนใหม่ ม.19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จึงอำนวยการให้พนักงานสอบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แม่จัน ทหารกองกำลังผาเมือง และแพทย์เวรโรงพยาบาลแม่จัน รุดไปตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบเป็นพื้นที่ป่าเขาชายแดนไทย-พม่า จุดเกิดเหตุอยู่ห่างไกลชุมชน โดยที่กลางลำห้วยกลางป่าพบศพชาย 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายจะงะ มูเซอร์ อายุ 46 ปี และนายประติ มูเซอร์ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นพ่อลูกกัน อยู่บ้านเลขที่ 583 บ้านแสนใหม่ สภาพแต่งกายในชุดไปหาของป่า สวมกางเกงขายาว ถุงเท้า และรองเท้าเดินป่า นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กลางลำห้วยที่มีน้ำไหลผ่านโขดหิน โดยศพอยู่ห่างกันเล็กน้อย
ตรวจสอบศพคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน เนื่องจากศพเริ่มเน่า และขึ้นอืด เมื่อตรวจร่างกายพบที่ลำคอมีบาดแผลถูกของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ใกล้ศพพบสัมภาระเป็นถุงย่ามที่ใช้หาของป่าตกอยู่ด้วย แต่ที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ และไม่พบบุคคลต้องสงสัยเพราะอยู่กลางป่าลึก เจ้าหน้าที่จึงทำการชันสูตรพลิกศพ เก็บหลักฐานข้อมูลทุกอย่างตามขั้นตอน แล้วจึงมอบศพให้ญาตินำไปจัดการตามประเพณี
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ทั้ง 2 พ่อลูกได้ออกจากหมู่บ้านเข้าไปในป่าเพื่อเก็บสมุนไพรตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. จากนั้นได้หายตัวไปไม่กลับบ้าน ทำให้ญาติ และชาวบ้านพากันออกตามหา กระทั่งพบกลายเป็นศพอยู่กลางลำห้วยดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าอาจถูกกลุ่มนอกกฎหมาย โดยเฉพาะกองกำลังคุ้มกันยาเสพติด ฆ่าปิดปากทั้ง 2 คน เนื่องจากไปพบการกระทำความผิด เพราะพื้นที่แถบนี้เป็นเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อยคือ กลุ่มว้า และมูเซอ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเคยมีประวัติใช้กองกำลังติดอาวุธลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาหลายครั้ง บางครั้งเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย หรือถูกจับกุมพร้อมของกลางด้วย