ศูนย์ข่าวศรีราชา - บีโอไอแหลมฉบังเผยตัวเลขการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก ช่วง 4 เดือนแรกของปี มี 339 โครงการ มูลค่าลงทุน 1.5 แสนล้านบาท โดยระยอง และชลบุรียังเป็นพื้นที่ลงทุนสูงติดอันดับ 1 และ 2 ขณะที่ประเภทกิจการที่ได้รับอนุมัติสูงสุด คือ ชิ้นส่วนยานยนต์
ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 แหลมฉบัง สำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยตัวเลขการลงทุนใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก ช่วง 4 เดือนแรก (มกราคม-เมษายน) ปี 2558 ว่า มีโครงการได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน 339 โครงการ มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท จ้างงาน 35,466 คน จังหวัดที่มีโครงการได้รับอนุมัติมากเป็นอันดับ 1 คือ ระยอง 157 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 39.34 มูลค่าการลงทุนมากที่สุด คือ 6.51 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43.24 ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด
รองลงมา คือ จ.ชลบุรี 128 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 32.08 วงเงินลงทุน 4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.56 ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด
สำหรับประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติสูงสุด คือ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 28 โครงการ มูลค่าการลงทุนมากที่สุด ได้แก่ จ.ระยอง 65,139.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43.24 รองลงมา คือ กิจการบริการและสาธารณูปโภค 17 โครงการ เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Electricity Power from Solar Rooftop) เป็นต้น
ขณะที่ จ.ปราจีนบุรี มีโครงการที่ได้รับอนุมัติ 57 โครงการ วงเงินลงทุน 2.74 หมื่นล้านบาท รองลงมา คือ จ.ฉะเชิงเทรา 30 โครงการ วงเงินลงทุน 1.46 หมื่นล้านบาท และ จ.สระแก้ว 25 โครงการ วงเงินลงทุน 3.16 พันล้านบาท
สรุปภาวะการลงทุนในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียว พบว่า มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริม 72 โครงการ มูลค่าการลงทุน 4.96 หมื่นล้านบาท โดย จ.ชลบุรี มีโครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนสูงสุด 24 โครงการ รองลงมา คือ ระยอง 22 โครงการ ปราจีนบุรี 14 โครงการ ฉะเชิงเทรา 8 โครงการ สระแก้ว 2 โครงการ และจันทบุรี 1 โครงการ