บุรีรัมย์ - เจ้าหน้าที่ทหารร่วม ส.ป.ก. สำนักพุทธ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกตรวจสอบสำนักสงฆ์ชื่อดัง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พบก่อสร้างถาวรวัตถุ สำนักปฏิบัติธรรมในพื้นที่ ส.ป.ก.กว่า 200 ไร่ มูลค่านับร้อยล้าน และไม่ได้ยื่นขออนุญาตถูกต้อง อีกทั้งพบลักลอบขุดดินในที่ ส.ป.ก.ใกล้สำนักสงฆ์ เร่งสอบหาตัวผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินคดี
วันนี้ (8 มิ.ย.) พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาสงบเรียบร้อยจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนางวรรณพร ดอกจำปา ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ นายวิจิตร พุกาธร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ นายประกิจ แดงชาติ นายก อบต.บ้านสิงห์ พร้อมผู้แทนอำเภอนางรองและที่ดินอำเภอนางรอง ได้เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์พระพุทธบาทศิลา (ภูม่านฟ้า) ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง
หลังมีชาวบ้านร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.นางรอง ว่ามีการนำรถแบ็กโฮเข้าไปลักลอบขุดดินในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งอยู่ติดกับสำนักสงฆ์ดังกล่าว นำไปถมที่ส่วนบุคคล อีกทั้งสำนักสงฆ์ดังกล่าวได้ก่อตั้งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.
จากการเข้าตรวจสอบพบว่าสำนักสงฆ์ดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.จริง ทั้งได้มีการก่อสร้างถาวรวัตถุ ทั้งที่พักสงฆ์ สถานที่ปฏิบัติธรรม ศาสนสถานต่างๆ และมีถนนล้อมรอบพื้นที่ รวมทั้งหมดกว่า 200 ไร่ คาดมีมูลค่าการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
โดยผู้ดูแลสำนักสงฆ์ดังกล่าวอ้างว่าพื้นที่บางส่วนเป็นที่ดินมรดกตกทอด บางส่วนมีญาติโยมที่ศรัทธาบริจาค และถวายให้เพื่อก่อสร้างสำนักสงฆ์ ซึ่งกรณีดังกล่าวทาง ส.ป.ก.ได้ให้ทางสำนักสงฆ์นำเอกสารหลักฐานไปแสดงยืนยันถึงที่ไปที่มา
ทั้งนี้ ยังพบว่ามีการใช้เครื่องจักรเข้าไปลักลอบขุดดินในพื้นที่ ส.ป.ก.ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนจริง แต่ขณะเข้าทำการตรวจสอบไม่พบผู้กระทำผิด ซึ่งจะได้ตรวจสอบเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลที่กระทำผิด ฐานนำมวลดินออกจากที่ ส.ป.ก.
ด้านนายวิจิตร พุกาธร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสำนักสงฆ์หรือที่พักสงฆ์ดังกล่าว ได้ก่อตั้งมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ไม่ได้มีการยื่นขออนุญาตให้ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอน จึงถือว่าเป็นที่พักสงฆ์ที่ไม่ถูกต้อง เพราะตามระเบียบในการก่อตั้งวัดหรือสำนักสงฆ์ จะต้องมีที่ดินซึ่งเป็นของเอกชนหรือที่ส่วนบุคคลอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 ไร่ และจะต้องไม่บุกรุกที่สาธารณะหรือที่ดินของรัฐ แต่หากตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างในที่สาธารณะหรือที่ดินของรัฐโดยไม่ถูกต้องก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยเพิกถอนจากการเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์