ศรีสะเกษ - พายุถล่ม อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ รอบ 4 บ้านเรือนประชาชนพังยับ 152 หลังคาเรือน ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนมาก หญิงชาวนาโดนฟ้าผ่าเจ็บ 1 ราย
วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโนนสมประสงค์ ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายธนาวรรณ สุระชาติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กระแชง พร้อมด้วยสมาชิก อบต. และเจ้าหน้าที่ อบต. ได้ออกทำการสำรวจบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากการที่ถูกพายุฝนถล่มเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (7 มิ.ย.)
จากการสำรวจพบว่า บ้านเลขที่ 213 ม.13 บ้านโนนสมประสงค์ ต.กระแชง ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ฝาบ้านถูกลมพัดพัง หลังคาปลิวหายไป ข้าวของทรัพย์สินภายในบ้านถูกน้ำฝนได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องพากันนำเสื้อผ้าและที่นอนออกมาตากนอกบ้าน พร้อมทั้งช่วยกันกวาดเอาน้ำออกมาจากบ้าน คอกหมูถูกลมพัดพังยับเยิน หมูหลุดจากคอกวิ่งหนีไปทั่วบริเวณ
ส่วนที่บ้านเลขที่ 155 ม.13 หมู่บ้านเดียวกัน ถูกแรงพายุพัดพังถล่มลงทั้งหลัง โชคดีที่ ด.ญ.อรอนงค์ ศรีรังสิน อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา ซึ่งกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ในบ้านหนีออกมาได้ทัน ขณะต้นไทรขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้บ้านได้ถูกลมพัดหักโค่น นอกจากนี้ ภายในบริเวณหมู่บ้านต้นไม้จำนวนมากหักโค่นขวางถนน รวมทั้งปิดถนนปากทางเข้าบ้านโนนสมประสงค์ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ขณะที่บริเวณหน้าที่ทำการ อบต.กระแชง ต้นตะแบกขนาดใหญ่หักโค่นลงมาทับรั้วของ อบต.พังเสียหาย บริเวณปากทางเข้าบ้านกระแชง เสาไฟฟ้าแรงสูงได้หักโค่นจำนวน 3 ต้น ทำให้ไฟฟ้าในเขต ต.กระแชงดับทั้งตำบลนานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งนายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้นายอำเภอกันทรลักษ์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบวาตภัยในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว
นางนงนุช พาสันต์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 ม.13 บ้านโนนสมประสงค์ ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ ถูกพายุพัดบ้านพังเสียหายทั้งหลัง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนั่งอยู่ภายในบ้านกับลูกสาว ได้มีลมพายุพัดมาอย่างรุนแรงครั้งเดียวนานประมาณ 5 นาที ทำให้บ้านเรือนถูกลมพัดเสียหายยับเยิน จากนั้นได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ทรัพย์สินภายในบ้านถูกน้ำฝนเสียหายจำนวนมาก โชคดีที่บ้านไม่พังถล่มลงมา หลังจากลมพายุฝนสงบลงแล้วจึงได้ออกมานอกบ้านและพบว่าบ้านพังเสียหายทั้งหลัง สังกะสีและฝาบ้านชั้นบนพังยับเยิน คอกหมูที่เลี้ยงหมูป่าเอาไว้ 15 ตัวถูกลมพัดพัง หมูวิ่งหนีไปทั่วบริเวณ และหายไปหลายตัว
นายธนาวรรณ สุระชาติ นายก อบต.กระแชง กล่าวว่า จากการสำรวจบ้านเรือนของประชาชนในเขต ต.กระแชง ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดพบเบื้องต้นมีจำนวน 152 หลังคาเรือน โดยมีบ้านที่เสียหายทั้งหลังจำนวน 2 หลัง ซึ่งการเกิดวาตภัยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยครั้งที่ 3 กับครั้งที่ 4 ระยะห่างกันเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยครั้งนี้เป็นการเกิดวาตภัยที่รุนแรงมากที่สุด เนื่องจากมีบ้านเรือนของชาวบ้านเสียหายร่วม 200 หลังคาเรือน มีหมู่บ้านที่ถูกพายุถล่มบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 11 หมู่ที่ 12 หมู่ที่ 13 หมู่ที่ 15 หมู่ที่ 17 และหมู่ที่ 18
โดยหมู่ที่ 18 บ้านเรือนได้รับความเสียหายมากที่สุดจำนวนทั้งสิ้น 41 ครัวเรือน รองลงมาคือ หมู่ที่ 1 จำนวน 33 ครัวเรือน และมีชาวบ้านถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย คือ นางบุญยัง กล้าหาญ อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 13 ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์
ในส่วนของการช่วยเหลือนั้น ทาง อบต.จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามระเบียบของทางราชการ โดยหากบ้านพังเสียหายทั้งหลังจะได้รับเงินช่วยเหลือหลังละ 30,000 บาท ส่วนบ้านที่เสียหายเล็กน้อยจะช่วยเหลือตามสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น