ศูนย์ข่าวศรีราชา - “เมืองพิเศษ” เทศบาลนครแหลมฉบังยังไม่คืบ หลังรัฐบาลต้องการให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเหมือนเมืองชายแดน ทั้งที่รูปแบบต่างกัน วอน คสช.พิจารณาทบทวนใหม่
นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงการผลักดันให้เทศบาลนครแหลมฉบัง เป็นเมืองพิเศษว่า คณะผู้บริหารได้มีการผลักดันตั้งแต่ปี 2547 ในสมัยเป็นเทศบาลตำบลแหลมฉบัง โดยมีนายบุญเลิศ น้อมศิลป์ นายกเทศมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้ริเริ่ม เพื่อต้องการให้เป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ หรือเมืองพิเศษ พร้อมให้ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ทำการศึกษาและวิจัยความเป็นไปได้ เพราะเทศบาลตำบลแหลมฉบัง ช่วงนั้นเป็นเมืองท่าและเมืองอุตสาหกรรม ที่มีความเจริญเติบโต และมีรายได้มหาศาล แต่มีปัญหาด้านการบริหารจัดการด้านกฎหมายท้องถิ่น และงบประมาณในการพัฒนาท้องถิ่น
แต่เมื่อปี 2555 คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ให้ความเห็นชอบที่จะยกฐานเป็นเมืองพิเศษ หลังจากนั้น เมื่อมาถึงปี 2557 ในช่วงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้เป็นเทศบาลนครแหลมฉบัง เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เหมือนเกาะสมุย หรือแม่สอด หรือ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หนองคาย และมุกดาหาร เพื่อต้องการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ทางเทศบาลนครแหลมฉบัง ไม่ต้องการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยต้องการเป็นเมืองพิเศษ ซึ่งจะมีกฎหมายในการบริหารท้องถิ่นเอง มีงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่เอง ที่สำคัญเพื่อเชื่อมโยงด้านลอจิสติกส์ เพราะจากการประชุมประชาคมอาเซียน โดยแหลมฉบังถือเป็นฮับในการขนส่งสินค้าในระดับอาเซียน เมื่อท้องถิ่นได้เป็นรูปแบบพิเศษ การบริหารจัดการก็จะมีขึ้นชัดเจน และสะดวก
นางจินดา กล่าวว่า ความจริงแล้วรูปแบบของเทศบาลนครแหลมฉบัง ไม่เหมือนแม่สอด และเกาะสมุย หรือเมืองชายแดน ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษที่กำลังจะพัฒนา แต่ต้องการให้เทศบาลนครแหลมฉบัง เป็นเมืองพิเศษ ซึ่งมีท่าเทียบเรือเป็นอันดับที่ 16 ของโลก และอันดับ 1 ของประเทศ มีโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว จึงต้องการให้ทางคณะ คสช. ได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่ ซึ่งหากเป็นเมืองพิเศษแล้ว จะมีกฎหมาย งบประมาณในการบริหารจัดการเอง จึงไม่สมควรจะไปเกี่ยวข้องต่อแม่สอด หรือเกาะสมุย และเมื่อชายแดนต่างๆ