เชียงใหม่ - ศาลแขวงเชียงใหม่ตัดสินจำคุกสัปเหร่อและเมียประจำสุสานหายยา เชียงใหม่ เป็นเวลา 2 เดือน และปรับเป็นเงิน 5 พันบาท ข้อหาลักลอบเผาเศษชิ้นส่วนมนุษย์ แต่รับสารภาพและไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกให้รอคุมความประพฤติ 1 ปี และทำงานให้บริการสังคมเป็นเวลา 12 ชั่วโมงก่อนปล่อยตัวไป
ความคืบหน้ากรณีนายสุทัศน์ เนรมิต อายุ 58 ปี สัปเหร่อประจำสุสานหายยา เทศบาลนครเชียงใหม่ และนางสมบูรณ์ เนรมิต อายุ 71 ปี ภรรยา ที่ถูกทางนิติกรเทศบาลนครเชียงใหม่แจ้งความดำเนินคดีไว้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจเมืองเชียงใหม่เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ในข้อหาลักลอบนำเศษซากชิ้นส่วนมนุษย์มาเผาปะปนกับศพประชาชนที่นำมาเผาภายในสุสานหายยาในตัวเมืองเชียงใหม่ และถูกแจ้งข้อหาร่วมกันลักลอบกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือขยะปนเปื้อน โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสาธารณสุขของท้องถิ่น
โดยศาลแขวงได้พิพากษาตัดสินในวันนี้ (28 พ.ค.) ให้จำคุกสองสามีภรรยาเป็นเวลา 2 เดือน ปรับเป็นเงิน 5 พันบาท แต่เนื่องจากไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา คุมความประพฤติเป็นเวลา 1 ปี และให้ทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ก่อนจะปล่อยตัวไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังเข้าตรวจค้นเมรุเผาศพสุสานหายยา ในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังอดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยดินจี่ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ให้การซัดทอดเป็นแหล่งจำหน่ายซากทารก นำไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ พบถุงดำบรรจุชิ้นเนื้อมนุษย์จำนวน 19 ถุง ซึ่งสัปเหร่อรับมาจากบริษัทเอกชนนำมากำจัด และถูกทางเจ้าหน้าที่ เทศบาลนครเชียงใหม่แจ้งความจับ เป็นการลักลอบนำมาเผาโดยไม่ได้รับอนุญาต จนถูกจับกุมดำเนินคดี และศาลแขวงเชียงใหม่มีการพิพากษาตัดสินในวันนี้