ระยอง - บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด จัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 1 โครงการก่อสร้างหน่วยผลิตไฟฟ้าขนาด 40 เมกะวัตต์ ภายในสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว LNG
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่ห้องสร้อยเพชร โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าในสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) โดยมี นายรัตติกูล ปิยะวงศ์วาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการฯ นายวิทยาพร องกิตติกุล ที่ปรึกษาด้านมวลชนสัมพันธ์ นายกิตติพงษ์ วิสมิตะนันทน์ รักษาการผู้จัดการส่วนก่อสร้าง และนายสมชาย ระมาศ ผู้จัดการส่วนคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวะอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ร่วมชี้แจงโครงการฯ ซึ่งมีประชาชนจากชุมชนหลายชุมชน ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และใกล้เคียงให้ความสนใจร่วมรับฟังจำนวนมาก
นายรัตติกูล ปิยะวงศ์วาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการฯ กล่าวว่า สถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว บริษัท พีทีทีแอนเอ็นจี ตั้งอยู่เลขที่ 8/1 ถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง รับกระแสไฟฟ้าจากไฟฟ้าภูมิภาค 115 เควี มาผลิตและจ่ายแก๊สให้ระบบท่อของ ปตท.ที่ผ่านมา ประสบปัญหาเรื่องไฟฟ้าดับโดยเฉพาะปีที่ผ่านมา เกิดไฟดับรวม 7 ครั้ง ทำให้ระบบการจ่ายแก๊สระบบท่อต้องหยุดขบวนการ ส่งผลกระทบการผลิตของไฟฟ้า เพื่อเป็นการเพิ่มเสถียรภาพด้านพลังงานไฟฟ้าให้แก่สถานีรับ-จ่าย ก๊าซธรรมชาติเหลว และลดการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก
ดังนั้น ทางบริษัทฯจึงมีแผนงานที่จะติดตั้งหน่วยผลิตไฟฟ้าขนาด 40 เมกะวัตต์ ลงทุน 1,800 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงภายในพื้นที่ 15 ไร่ ในสถานีฯ เพื่อนำไฟฟ้าที่ผลิตมาใช้เป็นพลังงานหลัก และรับพลังงานไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นพลังงานสำรองเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ
นายรัตติกูล กล่าวต่อว่า ทางบริษัทฯ ไม่มีนโยบายผลิตไฟฟ้าเพื่อการค้า เป็นการผลิตใช้เอง ซึ่งเป็นโครงการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สำหรับเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่น่าจะมีปัญหา เพราะโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เป็นพลังงานสะอาด โดยใช้กังหันก๊าซที่มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ มีมลพิษน้อยที่สุด เอาความเย็นที่ได้จากแอลเอ็นจีมาใช้ผลิตไฟฟ้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงมีความมั่นใจว่าโครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าขนาด 40 เมกะวัตต์ ซึ่งเล็กมาก แต่ต้องทำรายงานการวิเคราะห์ด้านอากาศและเสียง บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด เป็นบริษัท ลูกของ ปตท.มีความตระหนักเป็นพิเศษเรื่องสิ่งแวดล้อม
ด้านนายอิทธิ แจ่มแจ้ง ประธานชุมชนหนองแฟบ กล่าวว่า โครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าของ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี มีกำลังผลิตไฟฟ้า 40 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและใช้ภายในสถานีรับ-จ่าย ก๊าซธรรมชาติของเขาเอง จึงมีความมั่นใจในการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจะมีคณะกรรมการไตรภาคี ประกอบด้วย ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามตรวจสอบ ในฐานะประธานชุมชนคิดว่า โครงการนี้ไม่น่าเป็นห่วงเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม
นายบุญเลิศ แก้วทอง ประธานชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ กล่าวว่า มีความเป็นห่วงเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางอากาศ และทางน้ำ เนื่องจากหน่วยผลิตไฟฟ้าสร้างอยู่ในทะเล สิ่งที่เป็นห่วงอีกเรื่องคือ เรื่องการคมนาคม จะทำให้การจราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้น อยากจะฝากให้ทางโครงการฯ ให้ความสำคัญเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษด้วย
