จันทบุรี - เรือประมงขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ออกทำการประมงไม่ได้ หลังฝนตกคลื่นลมแรง ชาวประมงต้องนำเรือมาจอดหลบคลื่นตามท่าเทียบเรือเป็นจำนวนมาก เพื่อรอคลื่นลมสงบก่อนออกทำการประมงอีกครั้ง
วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตามท่าเทียบเรือในพื้นที่ติดชายทะเลใน 4 อำเภอ คือ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง อำเภอแหลมสิงห์ และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี พบเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก และเรือประมงขนาดใหญ่ต่างนำเรือประมงมาจอดเทียบท่าเพื่อหลบฝนและคลื่นลมแรงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากชาวประมงได้ติดตามข่าวสารจากทางกรมอุตุนิยมวิทยาที่ได้ประกาศเตือนว่า ได้มีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ส่วนภาคอื่นๆ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้ ส่วนชายฝั่งภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ทำให้ชาวประมงใน 4 อำเภอ ของจังหวัดจันทบุรี ไม่สามารถออกทำการประมงได้มานานกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ต้องเสียรายได้ไป รวมทั้งการออกไปทำการประมงในระยะนี้เสี่ยงที่อาจจะถูกคลื่นซัดเรือประมงอับปางได้ และไม่ได้ปลากลับมาขายให้แก่พ่อค้าแม่ค้า จึงทำให้ชาวประมงเลือกที่จะนำเรือมาจอดเทียบท่าเพื่อหลบฝน และคลื่นลมแรงก่อนจะมีการออกทำการประมงอีกครั้งเมื่อฝนหยุด และคลื่นลมในทะเลสงบ
ในเรื่องนี้ นายประสิทธิ์ คงแสง อายุ 54 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า พื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านคลองขุด มีเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็กกว่า 80 ลำ ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถที่จะออกทำการประมงในระยะนี้ได้ เนื่องจากในพื้นที่มีฝนตก และมีคลื่นลมแรงทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ทำให้ชาวประมงต้องเลือกที่จะจอดเรือ และต้องขาดรายได้ในช่วงนี้ไป ปัจจุบันต้องใช้กินเงินเก่าในการดำรงชีวิตไปก่อนเพราะไม่มีอาชีพเสริมอะไรเข้ามารองรับ ก่อนที่จะรอฝน และคลื่นลมในทะเลจะสงบอีกครั้ง ชาวประมงก็จะออกทำการประมงอีกครั้งต่อไป
