ลำปาง - ตำรวจสันติบาลเดินหน้าสร้างเครือข่ายภาคประชาชน นิสิต นักศึกษาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รับวันนี้ยังมีคนบ่อนทำลาย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือส่งจากต่างประเทศ โฆษณาให้คนหลงเชื่อตาม บอกสมัยก่อนเจอประหาร 7 ชั่วโคตรแน่
วันนี้ (20 พ.ค.) นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดโครงการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้มอบหมายให้ตำรวจสันติบาลจังหวัดลำปางจัดขึ้นที่ห้องประชุมศูนย์นิรภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง เพื่อสร้างเครือข่ายภาคประชาชน นักเรียน นักศึกษา มีส่วนร่วมในการรณรงค์สร้างจิตสำนึก สร้างค่านิยมให้มีความจงรักภักดี เคารพเทิดทูน และช่วยกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ดำรงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป
ซึ่งในโอกาสนี้ นายมงคล พ.อ.สาธิต ศรีสุวรรณ รอง ผบ.มทบ.32 และ พ.ต.อ.จรูญ ไพลดำ ผกก.3 บก.ส.1 ได้กล่าวบรรยายพิเศษเกี่ยวกับความเป็นมา และความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 500 คนได้รับฟังด้วย
พ.ต.อ.จรูญกล่าวภายหลังบรรยายพิเศษว่า กองบัญชาการตำรวจสันติบาลเป็นหน่วยงานหนึ่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ พิทักษ์รักษาปกป้องไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และธำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จึงต้องให้ความสำคัญส่งเสริม ตลอดจนจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึก ค่านิยมให้เกิดความจงรักภักดี และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้อยู่กับประชาชนชาวไทยตลอดไป
ปีนี้กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ได้จัดอบรมประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษามาแล้ว 550 รุ่น เฉพาะกองกำกับ 3 ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้เตรียมจัดอบรมไว้ 129 รุ่น จัดไปแล้ว 65 รุ่น โดยผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมีแนวนโยบายในการจัดอบรมทุกครั้งว่า ขอให้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อเผยแพร่โครงการออกสู่สาธารณะให้มากที่สุด ให้ประชาชนได้รับทราบว่าโครงการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและอยู่คู่กับสังคมไทยมาหลายร้อยปีตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี จนถึงปัจจุบัน
แต่ที่ผ่านมายังคงมีประชาชนบางส่วนไม่เข้าใจ และไม่ให้ความสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พยายามเบี่ยงเบน บ่อนทำลายโดยใช้สื่อออนไลน์บิดเบือนข้อเท็จจริง ในฐานะตำรวจสันติบาลตระหนักถึงภัยคุกคามเรื่องนี้ จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูกลุ่มคนพวกนี้ ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่ใช่คนไทย ที่กระทำการอันบังอาจ มิบังควรอย่างยิ่ง ที่คอยบ่อนทำลายสถาบันตลอดมา
“หากเป็นสมัยก่อนจะต้องประหารชีวิต 7 ชั่วโคตร ทุกคนต้องตระหนักว่าพระองค์ทรงทุ่มเท เหน็ดเหนื่อยพระวรกายในการดูแลพสกนิกร ทรงทำโครงการต่างๆ มากมาย”
พ.ต.อ.จรูญยอมรับว่า ยังคงมีผู้ที่ตนเองเห็นว่าเป็นพวกที่ไม่ใช่คนไทย คอยบ่อนทำลาย บิดเบือนข้อเท็จจริงสถาบันพระมหากษัตริย์ จะเห็นว่ายังคงมีเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ พยายามหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กระทำความผิดตามมาตรา 112 อยู่
ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจสันติบาลจับกุมได้จำนวนมาก และบังคับใช้กฎหมายค่อนข้างจะชัดเจน เด็ดขาด ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้บางส่วนได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ยังคงทำคลิปส่งเข้ามาเผยแพร่ในกลุ่มของตนเองในประเทศไทย โดยตำรวจสันติบาลก็ติดตามจับกุมมาตลอด โดยบูรณาการกับท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง ทหารบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
ขณะที่กลุ่มที่ควรเฝ้าระวังอย่างยิ่งในขณะนี้ คือ กลุ่มเยาวชน เนื่องจากเร็วต่อการรับรู้ข่าวสารด้วยสังคมออนไลน์ แต่ขาดการคิดวิเคราะห์ ไตร่ตรองข้อมูล ซึ่งกลุ่มผู้ไม่หวังดีมักจะเจาะกลุ่มเยาวชนเป็นเครื่องมือ โดยการป้อนข้อมูลที่บิดเบือนเหล่านี้ออกไปทางสังคมออนไลน์ เมื่อเยาวชนได้รับข้อมูลแล้วไม่ได้ไตร่ตรองก็จะเชื่อตามที่โฆษณา ดังนั้นจึงฝากถึงผู้ปกครองให้เฝ้าระวัง ให้ข้อมูลที่แท้จริงและดีงามเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์แก่บุตรหลาน ไม่เช่นนั้นเด็กก็จะเชื่อตามสื่อออนไลน์ที่โฆษณาชวนเชื่อได้