เอไอเอสพบสื่อประจวบฯ เร่งติดตั้งเสาสัญญาณบริเวณหน่วยหุบเต่า-ป่าละอูหัวหิน

ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้บริหารเอไอเอส พบสื่อมวลชนประจวบฯ แจงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม พร้อมขยายเครือข่ายและเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ย้ำอยู่ร่วมสังคมอย่างยั่งยืน หวังเห็นคนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีทางการสื่อสารได้อย่างเท่าเทียม ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ พร้อมตอบรับ อช.แก่งกระจาน ติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์บริเวณหน่วยหุบเต่า-ทางเข้าหมู่บ้านป่าละอู หลังจากที่ผ่านมา เกิดปัญหาช้างทำร้ายผู้ขับขี่ จยย.เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ คาดลงมือติดตั้ง มิ.ย.นี้

วันนี้ (19 พ.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมประจวบแกรนด์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติ งามเจตนรมณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคกลาง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส พร้อมด้วย นายกรกฤษณ์ เสียงใส ผู้จัดการฝ่ายโครงข่ายวิศวกรรมภาคกลางเอไอเอส และเจ้าหน้าที่เอไอเอสฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ได้จัดพบปะสื่อมวลชนท้องถิ่นในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อที่จะนำไปพัฒนาปรับปรุงการให้บริการของการสื่อสารของเอไอเอส

นายกิตติ งามเจตนรมณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฯลฯ กล่าวว่า การขยายเครือข่ายเอไอเอส ใช้งบประมาณนับตั้งแต่ปี 2556-2557 ที่ผ่านมาประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยปี 2556 ใช้งบลงทุน 20,000 ล้านบาท และปี 2557 ที่ผ่านมา 40,000 ล้านบาท นัจจุบันเอไอเอสมีลูกค้ารวม 44.3 ล้านราย แบ่งเป็น AIS 3G จำนวน 40.8 ล้านราย และลูกค้า AIS 2G 2001 3.5 ล้านราย ในปัจจุบันมีสถานีฐานรวมทั้งสิ้น 20,000 แห่งทั่วประเทศ และจะมีการขยายอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ใหม่ๆ

ทั้งนี้ ด้วยแนวคิดและนโยบายในการดำเนินธุรกิจของเอไอเอส ยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อผลประโยชน์ของสังคม คือ การอยู่ร่วมสังคมอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการใสใจดูแลผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม ควบคู่ไปกลับการพัฒนาธุรกิจ สร้างสรรค์เทคโนโลยี นวัตกรรม การมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า การพัฒนาเทคโนโลยีและบุคคลากร

ด้าน นายกรกฤษณ์ เสียงใส ผู้จัดการฝ่ายโครงข่ายวิศวกรรมภาคกลางเอไอเอส กล่าวว่า ในปัจจุบันทางเอไอเอสได้นำนวัตกรรม สมอล เซลล์ เข้ามาเสริมในช่องว่างจุดเล็กๆ ในแต่ละพื้นที่ โดยติดอุปกรณ์ให้รองรับความเร็วสูงสุดที่ 42 Mbps ทุกแห่งทั่วประเทศ ในส่วนของพื้นที่ภาคกลาง 13 จังหวัด เอไอเอสมีลูกค้ารวมทั้งสิ้น 4.9 ล้านราย

ในส่วนการติดตั้ง และขยายสถานีฐานในพื้นที่ภาคกลาง มีการขยายสถานีฐาน AIS 2G จำนวน 2,000 แห่ง สถานีฐาน AIS 3G เพิ่มขึ้นอีก 849 แห่ง ในส่วนของจังหวัดประจวบฯ มีสถานีฐาน AIS 2G จำนวน 172 แห่ง และมีสถานีฐาน AIS 3G จำนวน 193 แห่ง และในสิ้นปีนี้จะขยายสถานีฐาน AIS 3G เพิ่มขึ้น 79 แห่ง รวมเป็น 272 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน 97 เปอร์เซ็นต์

สำหรับจังหวัดประจวบฯ เป็นประตูไปสู่ภาคใต้ ซึ่งมีพื้นที่ฝั่งตะวันออกติดชายฝั่งทะเลยาวกว่า 224 กม. ดังนั้น การติดตั้งเสาสัญญาณในพื้นที่ดังกล่าวจึงต้องเป็นเสาสัญญาณที่มีเทคโนโลยีการรับ-ส่งได้ไกลประมาณ 25-30 กม.เพื่อให้ครอบคลุมการติดต่อสื่อสารจากชายฝั่งถึงทะเล ซี่งจะสอดคล้องต่อชีวิตชาวประจวบฯ ที่ทำการประมง นอกจากนั้น เสาสัญญาณที่สถานีบางแห่งซึ่งมีขนาดสูงยังติดตั้งไฟเตือนบอกระดับความสูงของเสา เพื่อให้เครื่องบินมองเห็น และยังเป็นจุดสังเกตให้ชาวประมงเดินเรือกลับเข้าสู่ชายฝั่งได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนบริเวณแนวเส้นทางถนนที่ผ่านหน่วยหุบเต่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไปจนถึงทางเข้าหมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ซึ่งจุดนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ที่ผ่านมา มักเกิดปัญหาเรื่องช้างป่ากับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางเอไอเอส ได้รับการติดต่อประสานงานจาก นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้ช่วยติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ขึ้นเพื่อให้จุดดังกล่าวมีสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อสะดวกหากมีการขอความช่วยเหลือ ขณะนี้ทางเอไอเอสได้ตอบรับ และจะทำการติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์บริเวณจุดดังกล่าว เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์เอไอเอสสามารถใช้การได้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวบริเวณจุดนั้นคาดว่าน่าจะลงมือติดตั้งในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เอไอเอส ยังได้พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชมสถานีฐานอ่าวน้อย ซึ่งมีความสูงถึง 122.5 เมตร โดยสถานีดังกล่าวได้ติดตั้งไฟสัญญาณเพื่อให้ชาวประมงที่เดินเรือเห็น สามารถเดินเรือกลับเข้าชายฝั่งประจวบฯ ได้อย่างสะดวก

ป้าทองหลอม ชาวประทุม อายุ 70 ปี เจ้าของสถานีที่ให้เอไอเอสติดตั้งเสาส่งสัญญาณมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ยอมรับว่า ไม่มีปัญหากับการประกอบอาชีพปศุสัตว์แต่อย่างใด ที่ผ่านมา ซึ่งก็ทำให้การติดต่อสื่อสารในชุมชนได้อย่างสะดวก และสิ่งที่ได้ทางเอไอเอสยังได้จ่ายค่าเช่าให้ทุกปีซึ่งก็ถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่ง