สแกน อินเตอร์ มั่นใจกำไรสุทธิทั้งปีโตทะลัก เทียบปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิ 228 ล้านบาท หลังไตรมาสแรกปีนี้ทำกำไรสุทธิได้ 68 ล้านบาท เติบโตกว่าไตรมาส 4 ปีก่อน 203% ด้านผู้บริหารชี้แนวโน้มยังเติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจ iCNG และธุรกิจปรับปรุงคุณภาพก๊าซ ที่จะเริ่มรับรู้กำไรในไตรมาส 2 และ 3 ตามลำดับ เป็นแรงบวกเพิ่มเติมจากกำไรในธุรกิจเดิมให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ล่าสุด SCN ติดโผดัชนี MSCI เชื่อนักลงทุนกลุ่มสถาบันให้ความสนใจเพิ่มขึ้น
นายธัญชาติ กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้มั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย หลังผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจรในงวดไตรมาสแรกของปีนี้มีการเติบโตได้ดีมาก โดยสามารถทำรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ 484.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท เติบโต 203% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน ที่มีขีดความสามารถการแข่งขัน และมีการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถส่งมอบงานธุรกิจออกแบบ รับเหมา ติดตั้ง และซ่อมบำรุงอุปกรณ์ก๊าซ NGV ได้ตรงตามกำหนด รวมทั้งรายได้จากการให้บริการสูบอัดก๊าซจากท่อก๊าซธรรมชาติของ ปตท. จนถึงลูกค้าปลายทางยังเติบโตได้ต่อเนื่อง
“ธุรกิจหลักที่เกี่ยวเนื่องต่อก๊าซธรรมชาติของ SCN ยังมีการเติบโตที่ดีมาก ซึ่งสะท้อนเป็นตัวเลขกำไรสุทธิในไตรมาส 1/58 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อการผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ SCN ในปีนี้ ซึ่งมีเป้าหมายต้องการทำกำไรสุทธิในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ให้เติบโตกว่าไตรมาสแรก โดยหากเราสามารถทำได้ตามแผน จะส่งผลให้กำไรสุทธิในปีนี้เติบโตได้อย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 228 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายกำไรสุทธิที่เติบโตในส่วนนี้ ไม่นับรวมกำไรจากธุรกิจ iCNG และธุรกิจปรับปรุงคุณภาพก๊าซ ที่จะเริ่มทยอยรับรู้ได้ในไตรมาส 2 และ 3 ตามลำดับ รวมทั้งจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและบำรุงรักษาสถานี NGV ของ ปตท. ที่กำลังมีการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เช่นกัน” นายธัญชาติกล่าว
กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCN กล่าวเพิ่มเติมว่า การเติบโตที่ดีของบริษัทฯ ต่อจากนี้จะมาจากธุรกิจ iCNG เป็นหัวหอกในการผลักดันผลการดำเนินงาน ซึ่งจะสร้างรายได้ และกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป โดยบริษัทฯ จะเร่งขยายงานขนส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงการผลิต และติดตั้งเครื่องลดความดันก๊าซ ซึ่งเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีก๊าซธรรมชาติที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของสิทธิบัตรแต่เพียงผู้เดียว โดยในปัจจุบัน มีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งที่อยู่แนวนอกท่อก๊าซให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จึงคาดว่าจะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานจากธุรกิจ iCNG ในไตรมาส 2 ให้เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากการดำเนินธุรกิจปรับคุณภาพก๊าซธรรมชาติเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในไตรมาส 3/58 ซึ่งจะผลักดันให้ SCN เป็นผู้ให้บริการก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น หลังจากได้เซ็นสัญญากับบริษัท แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อสั่งซื้อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นำมาใช้ดำเนินธุรกิจอีกด้วย จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ติดกลุ่มการคำนวณดัชนี MSCI หรือ MSCI GLOBAL SMALL CAP INDICES ซึ่งเป็นดัชนีที่นักลงทุนสถาบันในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกนำมาใช้เป็นมาตรฐานในการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน โดยการที่บริษัทฯ ติดโผในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานที่มีความสามารถในการขยายตัวทางธุรกิจได้อีกมาก จึงเชื่อว่าหุ้น SCN จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาลงทุนแน่นอน