จันทบุรี - ฝนชุ่มฉ่ำในจันทบุรี ทำเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ส่งออกพอยิ้มได้ แม้หัวหน้าหน่วยปฏิบัติฝนหลวง ระบุปริมาณน้ำฝนที่ตกตามธรรมชาติยังน้อยจนไม่สามารถเพิ่มปริมาณน้ำลงสู่อ่างเก็บกักน้ำได้ แต่ก็จะยังเดินหน้าทำฝนหลวงในพื้นที่แห้งแล้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลจากการที่ในระยะนี้จังหวัดจันทบุรี ได้มีฝนตกครอบคลุมทั้ง 10 อำเภอ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ส่งออกพอยิ้มได้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอทำให้กล้วยไข่มีผลผลิตลูกใหญ่ และสมบูรณ์
โดย นายภิญโญ รัตนะเบญจะ เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ส่งออกในเนื้อที่ 10 ไร่ บอกว่า ปริมาณน้ำฝนทำให้กล้วยไข่ส่งออกให้ผลผลิตดี ลูกใหญ่ ลำต้นสมบูรณ์ แตกหน่อแตกใบ ผลสวยงามจนทำให้ราคาขายปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 24-25 บาท จนมีรายได้ตกเดือนละ 10,000-20,000 บาท
“อย่างไรก็ดี แม้ในระยะนี้จังหวัดจันทบุรี จะมีฝนตกลงมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะช่วยให้สถานการณ์ภัยแล้งใน 9 อำเภอดีขึ้นได้ แต่ฝนที่ตกลงมาก็สร้างความชุ่มชื่นให้แก่สวนกล้วยไข่ส่งออก จนทำให้ได้ผลผลิตดี และแตกหน่อแตกใบ ส่งผลให้ราคาดีตามความต้องการของตลาด” นายภิญโญ กล่าว
ขณะที่ นายสุรพันธุ์ สุวรรณไพบูลย์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี เผยว่า ฝนที่ตกครอบคลุมทั้ง 10 อำเภอ แม้จะยังไม่สามารถเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บกักน้ำ ฝาย และเขื่อนที่มีอยู่ได้ แต่ก็สามารถสร้างความชุ่มชื่นให้แก่พื้นที่สวนผลไม้ของเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งได้ในระดับหนึ่ง
โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะยังคงขึ้นทำการโจมตีก้อนเมฆเพื่อทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน สอยดาว และอำเภอท่าใหม่ ที่เกษตรกรชาวสวนร้องขอฝนหลวงเข้ามามาก
