กาญจนบุรี - ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-ปฏิบัติการ กฟผ.อำเภอศรีสวัสดิ์ แถลงข่าวยืนยัน 2 เขื่อนใหญ่ ทั้งเขื่อนเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีความมั่นคงแข็งแรง ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวทั้งในและนอกประเทศ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (8 พ.ค.) นายพงษ์เทพ เจริญวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-ปฏิบัติการการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ได้เปิดแถลงข่าวยืนยันความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนศรีนครินทร์ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวทั้งใน และนอกประเทศ พร้อมย้ำเตือนให้ประชาชนตระหนักเรื่องการใช้น้ำในภาวะแล้งนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด
นายพงษ์เทพ เจริญวรรณ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวทั้งในต่างประเทศ และประเทศไทยในช่วงระยะนี้ นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ และนายประเสริฐ ธำรงวิศว ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2 เขื่อนใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งในบริเวณเขื่อน
ผลการตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน จึงขอให้วางใจว่า ทั้ง 2 เขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวในช่วงนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ เขื่อนศรีนครินทร์ สามารถรับแรงแผ่นไหวได้ถึงขนาด 7.0 ตามมาตราริกเตอร์ โดยไม่พังทลาย และหากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากตัวเขื่อนตั้งแต่ 60 กิโลเมตรขึ้นไป จะไม่มีผลกระทบต่อตัวเขื่อน
อีกทั้ง 2 เขื่อนยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อนที่มีการดำเนินการมาอย่างสม่ำเสมอ ตามหลักวิชาการ และตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ถ้าเกิดกรณีฉุกเฉิน ทางเขื่อนศรีนครินทร์ก็ได้เตรียมแผนสำรองในกรณีฉุกเฉินไว้อีกทางหนึ่งด้วย
“จากภาพจะแสดงให้เห็นในกรณีที่เขื่อนศรีนครินทร์แตกว่า น้ำจะมีระดับสูง 8 เมตร เมื่อไหลผ่านเขื่อนท่าทุ่งนา จากนั้นเมื่อน้ำไหลไปถึงศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี จะมีความสูงของน้ำเหลือเพียง 3.20 เมตร และจะลดลงเข้าสู่ลำน้ำปกติที่บริเวณอำเภอท่ามะกา ส่วนระยะเวลาการไหลของน้ำ น้ำมีระยะเวลาเดินทางจากเขื่อนศรีนครีนครินทร์ ถึงศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการอพยพผู้คนที่อาศัยอยู่ท้ายน้ำให้ไปอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยได้” นายพงษ์เทพ กล่าวและว่า
แต่ช่วงนี้สิ่งที่ทางเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ อยากให้ประชาชนให้ความสนใจคือเรื่องของสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 เขื่อนมากกว่า เนื่องจากตอนนี้ปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้ของทั้ง 2 เขื่อน มีปริมาณน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้งมีฝนตกน้อยกว่าทุกปี จึงทำให้หลายภาคส่วนมีความเป็นห่วงว่าจะมีน้ำเพียงพอใช้หรือไม่ ทางเขื่อนศรีนครินทร์ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในลุ่มน้ำแม่กลองที่ทำนา งดการทำนาปรัง รวมทั้งขอให้ผู้ใช้น้ำ ใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และร่วมกันประหยัดน้ำ เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอใช้ก่อนจะถึงฤดูฝนในปี พ.ศ.2558
สำหรับชุมชนที่อยู่รอบเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณที่ประสบภัยแล้ง ทางเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ได้จัดรถบรรทุกน้ำเพื่อนำไปแจกจ่ายบรรเทาทุกข์จากภัยแล้ง ให้แก่ชุมชน โดยสามารถติดต่อผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้