ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ดึงซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ถ่ายทอดประสบการณ์เอาชนะโรคหืด ภายในงาน “อวสานหอบหืด” เนื่องในวันโรคหืดโลกประจำปี 2558 หวังลดผู้ป่วยโรคหืดที่แนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
วันนี้ (6 พ.ค. 58) ที่ห้องประชุมมิตรภาพและมอดินแดง ชั้น 3 อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานวันหืดโลก ครั้งที่ 15 ภายใต้ชื่อ World Asthma Day 2015 “อวสานหอบหืด” ซึ่งจัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องโรคหืด การตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคหืด แนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อรณรงค์ให้ทราบถึงแนวทางรักษาโรคหืดที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และตระหนักถึงปัญหาของโรคหืดอย่างจริงจัง
ภายในงานได้จัดเสวนาพิเศษ “ชัยชนะเหนือโรคหืด” โดยมี ณเดชน์ คูกิมิยะ ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง พร้อมด้วยคุณแม่สุดารัตน์ คูกิมิยะ ซึ่งเป็นคนไข้ที่เคยได้รับการตรวจรักษาโรคหืดจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น จนสามารถควบคุมโรคและดำเนินชีวิตในสังคมได้ปกติ มาถ่ายทอดเล่าประสบการณ์ การดูแลสุขภาพอยู่กับโรคหืดอย่างรู้เท่าทัน ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มาร่วมให้คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดและประชาชนทั่วไปที่สนใจ
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ วัชรา บุญสวัสดิ์ นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า โรคหืดเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขของทุกประเทศทั่วโลก จากสภาวะสิ่งแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนแปลงไป มลภาวะ ความผันผวนของสภาวะต่างๆ ของโลก รวมถึงสิ่งกระตุ้นและสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดโรคหืดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ไม่เหมาะสม มีความเข้าใจผิด ปฏิบัติตัวเพื่อควบคุมโรคหืดไม่ถูกต้อง
จากการสำรวจยังพบว่าผู้ป่วยโรคหืดเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินประมาณ 1 ล้านคน/ปี และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ประมาณ 1 แสนคน/ปี โดยอาการของโรคหืดจะมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงวี้ดและหอบเหนื่อยเป็นๆ หายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตอนกลางคืนหรือเช้ามืด
รศ.นพ.วัชรากล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่จะเอาชนะโรคหอบหืด คือผู้ป่วยจะต้องเข้าใจว่าโรคหืดเกิดขึ้นจากภาวะอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้ยาก จึงมีเสียงดังวี้ดจากอากาศผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ ทำให้ผู้ป่วยต้องหายใจถี่เพื่อให้อากาศเข้าสู่ปอดเพิ่มขึ้น บางรายหายใจหอบเร็วจนหมดแรง ทั้งขาดออกซิเจน ซึ่งโรคหืดไม่ใช่โรคติดต่อ แต่สามารถถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูกได้ โรคหืดไม่สามารถหายขาดได้แต่ควบคุมอาการหอบให้หายและสงบได้ โดยพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาคู่กับการเลี่ยงต่อสิ่งกระตุ้นและออกกำลังกาย
ด้าน ณเดชน์ คูกิมิยะ ในฐานะผู้ป่วยโรคหืด เปิดเผยถึงวิธีการดูแลตัวเองว่า เป็นเรื่องปกติที่ดูแลตัวเองในเรื่องของอาหารต้องรับประทานให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วงสมัยที่บ้านเมืองเจริญขึ้นจะเกิดมลภาวะเป็นพิษเพิ่มเข้ามา ผู้ป่วยโรคหืดจะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ โดยจัดการกับตัวเองและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการหอบ ฝากถึงทุกคนที่ป่วยเป็นโรคหอบหืดและภูมิแพ้ให้รีบรักษาโดยเร็ว และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วย