เชียงใหม่ - เกิดเหตุไฟไหม้ชุมชนสุสานช้างคลานกลางเมืองเชียงใหม่ วอดกลางดึกไม่ต่ำกว่า 30 หลัง แถมเปลวไฟคลอกหญิงขี้เมา เจ้าของบ้านต้นเพลิงไม่มีไฟฟ้าใช้ต้องจุดเทียนไขนอน ดำเป็นตอตะโกดับสยอง ชาวบ้านหนีตายกันอลหม่าน ไร้ที่อยู่อาศัยถ้วนหน้า บางคนเครียดจัดเหลือเสื้อผ้าติดตัวชุดเดียว นอนไม่หลับ ต้องยืนทั้งคืน
วันนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.เกษมสิษฐ์ ต่อกัน พงส.สภ.เมือง เชียงใหม่ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ภายในชุมชนแออัดภายในสุสานช้างคลาน ถนนช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสบโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนบริเวณชุมชนศรัทธาหัวฝาย ภายในสุสานช้างคลาน กลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา เปลวไฟได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีกระแสลมแรงทำให้ไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และลุกลามไปยังบ้านเรือนข้างเคียงที่ปลูกอยู่ติดกันเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำดับเพลิงนับ 10 คัน กระจายเข้าฉีดน้ำควบคุม แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสลมแรงทำให้ไฟยิ่งลุกลามเป็นบริเวณกว้างมากขึ้น จากบ้านต้นเพลิง หัวซอย ไปจนถึงท้ายซอย ระยะความยาวกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามนานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด แต่บ้านเรือนประชาชนถูกไฟไหม้วอดทั้งหมดเหลือแต่ซากไม่ต่ำกว่า 30 หลัง และโกด้าเฮาส์ เกสต์เฮาส์ที่อยู่ในย่านใกล้เคียงได้รับความเสียหายด้วย
นอกจากนี้ ยังพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก ชื่อนางอ้อย ไม่ทราบนานสกุล เจ้าของบ้านต้นเพลิงที่ชอบจุดเทียนไข และเมาสุราเป็นประจำ ขณะที่ชาวบ้านที่เหลือวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถขนทรัพย์สินออกมาได้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการจะเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ
ทั้งนี้ ช่วงเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยส่งผลให้กระแสไฟฟ้าในย่านดังกล่าวดับเป็นบริเวณกว้างช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
พ.ต.อ.วีระยุทธ เปิดเผยว่า จากการสวนพยานทราบว่า บ้านต้นเพลิงมาจากบ้านของนางอ้อย ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 50 ปี ผู้ตาย เป็นบ้านไม่มีไฟฟ้าต้องจุดเทียนไขนอน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดเพลิงไหม้บ้านมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ชาวบ้านช่วยดับทัน ก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านเห็นนางอ้อย เมาสุราโวยวายอยู่ในบ้านแล้วก็เกิดเพลิงลุกไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ด จนนางอ้อย วิ่งหนีไม่ทัน และถูกไฟคลอกเสียชีวิตคากองเพลิงดังกล่าว
ด้าน นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เผยว่า ชุมชนดังกล่าวเป็นบ้านเครือญาติของคนทำงานสัปเหร่อในสุสาน ปลูกต่อกันเป็นเพิงพัก มีประมาณเกือบ 20 หลัง เกือบ 20 ครอบครัว อาศัยอยู่จนกลายเป็นชุมชนแออัด เมื่อเกิดเพลิงไหม้ก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว เบื้องต้น ได้ให้ผู้ที่ประสบภัยอาศัยหลับนอนที่ศาลาภายในสุสานชั่วคราวไปก่อน ในตอนเช้าทางเทศบาลจะเข้ามาช่วยเหลืออีกครั้ง
ขณะที่ พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล รอง ผบก.ภ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้จะประสานให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุเพื่อสรุปหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านที่บ้านถูกไฟไหม้ทั้งหมดอยู่ในสภาพไร้ที่อยู่อาศัยต้องไปอาศัยอยู่ในศาลาสุสานแทน ขณะที่ นายวิเชียร์ อินต๊ะ อายุ 40 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบยืนทั้งคืน นอนไม่หลับ เกิดความเครียด เพราะบ้านถูกไฟไหม้เหลือเพียงเสื้อผ้าชุดเดียวที่ติดตัว เนื่องจากไม่สามารถนำทรัพย์สินออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด