ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กลุ่มกิจกรรมออกกำลังกายแบบหักโหม ที่เรียกตัวเองว่า “อุลตร้าไทยเชียงใหม่” ประกาศนำคน 400 ชีวิต ขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ในฤดูท่องเที่ยวเดือนธันวาคมนี้ ตั้งโต๊ะเก็บค่าใช้จ่ายเกือบหมื่นห้าต่อคน ด้านนักอนุรักษ์ไม่เห็นด้วย เริ่มเคลื่อนไหวคัดค้านในโซเชียลมีเดีย
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ http://ultra-thai.com/ และเฟซบุ๊ก Thailand Mountain Trail - TMT ของกลุ่ม “อุลตร้าไทยเชียงใหม่” ได้ประกาศประชาสัมพันธ์ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เชิญชวนร่วมกิจกรรมวิ่งขึ้นดอยหลวงเชียงดาว วันที่ 4-6 ธันวาคมนี้ โดยจะรับนักวิ่งปอดเหล็กประมาณ 400 คน เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศภูเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ มีค่าใช้จ่ายคนละ 495 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของกลุ่ม TMT/อุลตร้าไทยเชียงใหม่ ระบุว่า ผู้ริเริ่มการวิ่งในเส้นทางภูเขาภาคเหนือ เป็นชาวฝรั่งเศสชื่อ เซบาสเตียน แบตร็อง (Sebastien Bertrand) ได้เข้ามาวิ่งในเส้นทางภูเขาภาคเหนือ และชื่นชอบประเทศไทย จึงรวมกลุ่มเพื่อนที่สนใจกีฬาวิ่งวิบาก ผ่านภูมิประเทศป่าเขาที่สวยงาม จนกลายเป็นธุรกิจ เพราะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับผู้สนใจร่วมวิ่งวิบากขึ้นภูเขาในเส้นทางที่กลุ่มได้จัดเตรียม เช่น เส้นทางดอยสุเทพ-ปุย เป็นต้น จนล่าสุด ถึงกับเตรียมจะเปิดวิ่งในเส้นทางใหม่ คือ ดอยหลวงเชียงดาว
จากนั้นเมื่อข่าวสารนี้เผยแพร่ไปได้มีเสียงคัดค้านจากนักกิจกรรม และเครือข่ายนักอนุรักษ์จำนวนมาก เช่น นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ นักอนุรักษ์ชื่อดัง ได้เข้าไปโพสต์ข้อความคัดค้านในเพจของกลุ่ม TMT ในช่วงเช้าของวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาข้อความดังกล่าวถูกลบไป นพ.รังสฤษฎ์ จึงโพสต์ข้อความต่อในเฟซบุ๊กของตนเอง ความว่า “เมื่อเช้านี้ ผมคัดค้านการจัดวิ่งขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ที่ทาง TMT เชิญชวนคน 400 คน จากทั่วโลกเข้าแข่งขัน แต่ข้อความได้ถูกลบไปแล้ว ถ้าลบเพราะเลิกจัดก็ยินดี และขอบคุณมากครับ แต่ถ้าลบแล้วจะแอบจัด อันนั้นไม่ยอมครับ”
กระแสคัดค้านการจัดวิ่งเริ่มขยายวงออกไปทางโซเชียลมีเดีย มีผู้ไม่เห็นด้วยมากขึ้น เพราะดอยหลวงเชียงดาว เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่สำคัญ มีระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อน ไม่สามารถรองรับปริมาณผู้คน และกิจกรรมขนาดใหญ่ลักษณะนี้ได้ ปกติแล้วทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจขึ้นดอยหลวงเชียงดาวเพียงฤดูหนาว กับช่วงแรกของหน้าร้อน แล้วก็จะปิดให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว
ผู้ที่จะขึ้นไปต้องขออนุญาตล่วงหน้า มีระบบจัดการขยะที่รัดกุมพอสมควร เช่น ต้องให้ลูกหาบนำทางนำขยะที่ขึ้นไปลงมาตามจำนวนที่แจ้งไว้ และไม่ปลูกสร้างอาคารถาวรข้างบน เพราะสภาพพื้นที่บนยอดดอยเป็นหินปูนที่เปราะบาง และมีพันธุ์ไม้หายาก มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น
นายนิคม พุทธา นักกิจกรรมและนักอนุรักษ์อีกคนหนึ่งได้โพสต์คัดค้านการจัดวิ่งเช่นกันโดยระบุว่า “คัดค้าน...กิจกรรมนี้ และหาทางที่จะทำให้พวกเขาได้เข้าใจถึงคุณค่า..ความสำคัญของดอยหลวงเชียงดาว เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อยู่อาศัยพรรณพืช และสัตว์ป่าหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เป็นต้นกำเนิดของสายน้ำแม่ปิง สู่เจ้าพระยา มีสถานะทางกฎหมายเป็นป่าอนุรักษ์ คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า”
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่าทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ได้เห็นชอบให้มีการจัดกิจกรรมนี้แล้วหรือยัง เนื่องจากติดวันหยุดยาว ไม่สามารถประสานกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีข่าวว่าคณะผู้จัดได้ติดต่อกับ นพ.รังสฤษฎ์ เพื่อขอหารือแล้ว