ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมประมงอ.ศรีราชา ระบุชาวประมงในชลบุรีพร้อมให้ความร่วมมือตามนโยบายของสหภาพยุโรป เพื่อให้ไทยพ้นจากการถูกใบแดง ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งสัตว์ทะเล 28 ประเทศยุโรป เผยมาตรการส่งผลกระทบไม่มากนัก เพราะมีเรือใหญ่ขนาด 60 ตันกรอสเพียง 19 ลำ แต่ยังต้องการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่อนผันเรื่องอาชญาบัตร และการออกใบอนุญาตใช้เรือ
นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกสมาคมประมงอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงการทำประมงในจังหวัดชลบุรี หลังสหภาพยุโรปได้ประกาศให้ใบเหลืองแก่ภาคประมงของไทย หลังไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทำประมงให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยมีเงื่อนไขจะไม่สั่งซื้อสินค้าประมง และสัตว์ทะเลจากประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง IUU ว่า สิ่งที่ภาคประมงในจังหวัดชลบุรี จะต้องเร่งดำเนินการหลังผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ และตัวแทนสมาคมประมงในพื้นที่ คือ การแก้ไขปัญหาเรือประมงที่ช่องแสมสาร ที่มีเรือขนาด 60 ตันกรอส อยู่ 19 ลำ ที่จะต้องเร่งดำเนินการติดตั้งระบบวีเอ็มเอส เพื่อให้สามารถติดตามได้ด้วยระบบดาวเทียมให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
ขณะที่ภาพรวมการทำประมงในพื้นที่ ถือเป็นการทำประมงแบบไม่ค้างคืน และไม่ไปไกล เนื่องจากเป็นเรือประมงขนาด 30 ตันกรอส และไม่ถึง 60 ตันกรอส ที่มีเพียง 69 ลำเท่านั้น จึงถือว่าได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปไม่มากนัก เพราะสัตว์น้ำที่จับได้ส่วนใหญ่ใช้บริโภคตามร้านอาหาร และบริโภคภายในพื้นที่
นายฉัตรชัย ยังเผยอีกว่า แต่สิ่งที่ภาคประมงของจังหวัดชลบุรี ต้องการได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ก็คือ การขอให้กรมประมงเร่งรัดการออกเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะการอธิบายให้ชาวประมงเข้าใจเกี่ยวกับการแจ้งเวลาเข้าออกของเรือที่จะทำประมง ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรผ่อนผันเรื่องเรือที่ไม่มีอาชญาบัตร และการออกใบอนุญาตเรือ เพราะขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีเรือเถื่อนมากถึง 3-4 พันลำ จึงจำเป็นต้องได้รับการปลดล็อกปัญหาดังกล่าวก่อน เพื่อให้กลุ่มประมงสามารถดำเนินการจดทะเบียนเรือ และมีอาชญาบัตรได้โดยถูกต้อง
ส่วนกฎหมายใหม่ๆ ที่ประกาศให้มีการขยายพื้นที่ห้ามการทำประมงโดยอวนลาก และอวนลุน หรือเครื่องมือต่างๆ จากเดิม 3 พันเมตรจากฝั่งทะเล เป็น 6 พัน กับ 400 เมตร จะทำให้สัตว์น้ำวัยอ่อนก็จะได้เข้ามาอาศัยมากขึ้น
“คิดว่าหลังการแก้ไขปัญหาร่วมกันจากส่วนงานต่างๆ แล้วน่าจะสามารถแก้ไข และปลดล็อกปัญหาใบเหลืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการเสนอให้มีการนิรโทษกรรมเพื่อปลดล็อกให้มีการเริ่มต้นจดทะเบียนเรือกันใหม่นั้นถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ยังติดที่กระทรวงเกษตรฯ ที่จะต้องมีการผ่อนปรนเพื่อให้ชาวประมงสามารถดำเนินการได้ ส่วนปัญหาแรงงานต่างๆ ชาวประมงทั่วประเทศก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ซึ่งหาก คสช.เอาจริง และมีการตั้งคณะทำงานอย่างจริงจัง เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างแน่นอน”
