นายพงพีระ ชูชื่น นายอำเภอขุนยวม ร่วมกับ พ.ต.อ.ธนะเดช ประสานเสียง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรขุนยวม พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ธรรมรัตน์ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร ขุนยวม ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงการสนธิกำลังบุกจับไม้สักเถื่อนตามนโยบายกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2558 เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 30 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย จึงได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองจำนวน 50 นาย นำหมายศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนเข้าปิดล้อมจับกุม นายเกษม บุญชูฤทธิ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 6 บ้านแม่ลาก๊ะ ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม หลังจากได้รับรายงานว่านายเกษมเป็นเครือข่ายในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เคยบุกจับครั้งหนึ่งแล้วแต่ข่าวรั่วทำให้นายเกษมไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน
ต่อมาในวันเวลาดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า นายเกษม บุญชูฤทธิ์ ได้แอบมาทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา และยังกบดานอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้ามืด ใช้เวลาการเดินทางกว่า 1 ชั่วโมงการเดินทางก็เป็นไปอย่างยากลำบาก พอถึงบ้านหลังดังกล่าว นายเกษมไม่ทันตั้งหลัก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อมจับกุมตัวได้อย่างละม่อม พร้อมทำการตรวจค้นในบ้านและบริเวณบ้าน ผลการตรวจค้นพบไม้สักแปรรูปในขนาดต่างๆ ซุกซ่อนอยู่จำนวน 120 แผ่น และไม้สักท่อนอีกจำนวน 7 ท่อน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอย่างละเอียดภายในสวนพบไม้สักท่อนถูกฝังดินไว้อีกจำนวน 8 ท่อน จึงได้ช่วยกันขุดและใช้รถกระบะโฟร์วีลของฝ่ายสืบสวน สภ.ขุนยวม ดึงชักลากออกจากหลุม
ในการปฏิบัติงานครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากไม่มียานพาหนะในการชักลาก รวมไม้สักท่อนที่ทำการยึดได้ในครั้งนี้ 15 ท่อน คิดเป็นมูลค่าหลายแสนบาท พร้อมกันนั้นยังพบยาบ้าชนิดสีส้มบรรจุอยู่ในถุงสีฟ้าจำนวน 6 เม็ด ฝิ่นดิบอีกจำนวน 3 กรัม อาวุธปืนแก๊ปจำนวน 2 กระบอก ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังใช้รถดึงไม้ออกจากหลุมอยู่นั้นก็พบกล่องพลาสติกสีดำผุดออกมาจากในดิน จึงได้นำมาแกะดูพบถุงพลาสติกสีฟ้าสำหรับบรรจุยาบ้าและยังมีกลิ่นของยาบ้าติดอยู่ แต่ถูกนำไปจำหน่ายหมดแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งเพื่อจะนำไปขยายผลต่อไป