คนแม่สายเดือดรุมประท้วง ตร.เข้มจัดจับดะไม่เว้นขี่ จยย.ไปหัวไร่ปลายนา

เชียงราย - ชาวบ้านชายแดนแม่สายเดือดจัด รวมตัวถือป้ายประท้วงขับไล่ตำรวจ หลังถือใบสั่งตั้งด่านเข้มงวดกฎหมายจราจรกลางชุมชน จับดะไม่เว้นแม้แต่คนขี่มอเตอร์ไซค์ไปหัวไร่ปลายนา หรือไปตลาด พร้อมเรียกร้องย้าย 3 นายตำรวจใช้วาจาไม่สุภาพกับประชาชน

วันนี้ (30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 20 คน พากันเดินทางไปที่ตู้ยามสันถนนใต้ และ สภ.เกาะช้าง อ.แม่สาย เพื่อประท้วงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันด้านกฎหมายจราจร โดยชาวบ้านได้มีการนำป้ายไปประกอบการประท้วงระบุข้อความหลากหลาย เช่น อยากได้ผลงานแต่ชาวบ้านเดือดร้อน ฯลฯ หลายป้ายถึงขั้นระบุชื่อนายตำรวจที่ต้องการขับไล่ด้วย

ชาวบ้านระบุว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีการเข้มงวดกวดขันกันมากนัก กระทั่งระยะหลังตำรวจจับหมด หลายเรื่องไม่มีการยืดหยุ่น เช่น ชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ไปทำนาก็ถูกดำเนินคดีจราจรข้อหาไม่สวมใส่หมวกนิรภัย, แม่ค้าไปซื้อสินค้าเล็กๆ น้อยๆ ก็ถูกปรับไม่เว้นแม้แต่ตามถนนสายรอง ตรอกซอกซอยต่างๆ โดนจับปรับขั้นต่ำ 100 บาทขึ้น

กลุ่มชาวบ้านได้ใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัย และแจ้งข้อเรียกร้องด้วยว่า ขอให้ย้ายนายตำรวจ 3 นายที่มีการระบุชื่อในป้ายประท้วงออกไปจากพื้นที่ด้วย เพราะนอกจากจะปฏิบัติหน้าที่ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชนแล้ว ยังใช้วาจาไม่สุภาพกับประชาชน

ต่อมา พ.ต.อ.ภาสกร ณ พิกุล ผกก.สภ.เกาะช้าง ได้เข้าหารือกับชาวบ้าน และเชิญตัวแทนให้เข้าไปร่วมประชุมหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะให้ย้ายจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากจุดเดิมที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน ซึ่งอาจจะมีผลต่อวิถีชุมชนดั้งเดิมไปอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านแทน ขณะที่ชาวบ้านพอใจต่อการแก้ไขปัญหา แต่ก็ระบุด้วยว่าหากยังมีการเข้มงวดกับคนที่จะออกไปทำไร่ทำนาก็จะรวมตัวกันประท้วงอีก ก่อนแยกย้ายกันกลับ

ด้าน พ.ต.อ.ภาสกรกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความไม่เข้าใจกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกับประชาชน ซึ่งทางตำรวจขอยืนยันว่าการดำเนินคดีจราจรที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการมุ่งหวังเงินรางวัลใดๆ แต่เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของตำรวจภูธรภาค 5 และการปฏิบัติก็ดำเนินการไปในทุกพื้นที่ ไม่ได้มีเฉพาะที่ ต.เกาะช้างเท่านั้น

แต่เมื่อชาวบ้านไม่สบายใจ ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจดี เพียงแต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องยึดถือตามกฎหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความลงตัวต่อทั้งสองฝ่าย จึงได้หารือจนได้ข้อสรุปดังกล่าว ซึ่งก็จะติดตามผลการดำเนินงานกันต่อไป