กาญจนบุรี - คณะสัตวแพทย์ 3 ฝ่าย ร่วมวางยาสลบเสือโคร่งวัดป่าหลวงตามหาบัว ฝังไมโครชิปผ่านฉลุย เผยเสือทั้ง 147 ตัว มีไมโครชิปทั้งหมด เตรียมรายงานอธิบดีกรมอุทยานฯ วันนี้ ด้านทนายความส่วนตัว นสพ.สมชัย ยันเสือ 3 ตัวหายจริง แนะเจ้าหน้าที่ตั้งใจตรวจ เพียงแค่ดูลายเสือพร้อมชิปว่าตรงกันหรือไม่ ง่ายนิดเดียว
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (29 เม.ย.) นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง นายนเรศ ชมบุญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า นายธนะบดี เอี่ยมสุขประเสริฐ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 กาญจนบุรี (สปป.ที่ 1 ภาคกลาง) พร้อมด้วย นสพ.มาโนชญ์ ยินดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะสัตวแพทย์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
พร้อมทั้งคณะสัตวแพทย์ที่ปรึกษามูลนิธิวัดป่าฯ ร่วมตรวจสอบไม่โครชิป และตรวจรูปพรรณลายเสือโคร่ง จำนวน 147 ตัว ภายในวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ครั้งนี้มี น.ส.มยุรี อำพลจันทร์ ผู้ช่วยนักวิจัย สถานีวิจัยสัตว์ป่า เขานางรำ จ.อุทัยธานี พร้อมทีมงานเดินทางมาร่วมตรวจสอบลายเสือโคร่งด้วย
สำหรับการตรวจสอบไมโครชิปที่ฝังอยู่ในตัวเสือ รวมทั้งตรวจสอบลายเสือ คณะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกวันจนแล้วเสร็จ เหลือเพียงกลุ่มเสือโคร่งที่ดุร้าย 8 ตัวเท่านั้น ซึ่งเสือโคร่งทั้ง 8 ตัว อยู่ในบัญชีของกลาง ทั้งหมดถูกฝังไมโครชิปเอาไว้แล้ว มีเพียงเสือเพศเมีย อายุ 3 ปีเศษเพียงตัวเดียว ที่ไม่ปรากฏพบไมโครชิปที่ฝังเอาไว้ คณะสัตวแพทย์ทั้ง 3 หน่วยงาน จึงมีความเห็นพร้อมกันว่า จำเป็นจะต้องวางยาสลบ
จนในเวลาประมาณ 14.30 น. คณะสัตวแพทย์จึงเริ่มดำเนินการวางยาสลบด้วยความระมัดระวัง หลังจากที่เสือตัวดังกล่าวสลบ เจ้าหน้าที่จึงนำเครื่องสแกนไปตรวจสแกนหาไมโครชิปทั่งร่างกายแต่ไม่พบ ดังนั้น จึงนำไมโครชิปเลขที่... มาฝังเอาไว้ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนแล้วเสร็จ จึงให้ยาเสือเพื่อให้ฟื้นขึ้นมา โดยทุกขั้นตอนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งเสือ ทั้งคณะทำงานต่างปลอดภัยด้วยกันทั้งหมด
นสพ.มาโนชญ์ ยินดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้สามารถตรวจสอบไมโครชิปของเสือได้ทั้ง 147 ตัวแล้ว ในส่วนของเสือเพศเมีย ชื่อสตาร์ อายุประมาณ 3 ปีเศษ มีนิสัยค่อนข้างดุ คณะสัตวแพทย์ต้องยิงยาสลบเพื่อตรวจหาไมโครชิปอย่างละเอียด เมื่อไม่พบจึงฝังไมโครชิปเข้าไปใหม่ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งจนถึงขณะนี้ถือว่าเราเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว เสือทั้ง 147 ตัว จะอยู่ในฐานทะเบียนเสือของกลางทั้งหมด เหลือเพียงขั้นตอนการถ่ายรูปลายเสือประกอบเท่านั้น โดยขณะนี้ทีมผู้เชี่ยวชาญลายเสือจากสถานีวิจัยสัตว์ป่า เขานางรำ จ.อุทัยธานี กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าภายในวันนี้ก็คงจะแล้วเสร็จ
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น.ที่ผ่านมา นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความส่วนตัวของนายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย อดีตนายสัตวแพทย์ผู้ดูแลเสือวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ว่า กรณีตรวจเสือที่วัดป่าหลวงตาบัวฯ วิธีการตรวจเสือที่หายไป จำนวน 3 ตัว ในส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะยุ่งยาก เพราะเสือทั้ง 3 ตัวมีการลงทะเบียนเอาไว้แล้ว ซึ่งการลงทะเบียนก็คือ การกำหนดลักษณะเฉพาะตัวของเสือไว้ นั่นคือลายของเสือ ลักษณะเหมือนกับลายนิ้วมือของคนเรา
ดังนั้น เสือแต่ละตัวที่ลงทะเบียนจะมีการถ่ายภาพลายเสือของแต่ละตัวเอาไว้ แล้วกำหนดหมายเลขของเสือแต่ละตัวด้วยการฝังไมโครชิปซึ่งจะมีเลขทั้งหมด 15 หลัก
ดังนั้น เสือทั้ง 3 ตัว จะมีสิ่งที่บ่งบอกคือ ลายเฉพาะตัวของมัน และหมายเลขไมโครชิปประจำตัวของมัน ซึ่งการกำหนดแต่ละอย่างจะระบุเอาไว้ในทะเบียนว่าเสือตัวนี้ชื่ออะไร เป็นลูกของใคร เกิดเมื่อไหร่ มีการลงทะเบียนของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เอาไว้เมื่อไหร่ หากตนจำไม่ผิดเสือทั้ง 3 ตัว มีการลงทะเบียนระหว่างเดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคม 2555
โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ 2 คนคือ นายสุรพล ร่มโพธิ์เย็น และนายรัชสิต จงจรัสพร เป็นผู้มาลงทะเบียน โดยมี นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของวัดคือ นายวินัย รุ่งสว่าง มาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ดังนั้น การที่จะเจาะหาเสือทั้ง 3 ตัวหลังจากที่มีการตรวจสอบสามารถนำลายเสือเฉพาะมาเปรียบเทียบกันได้ ซึ่งจะทราบได้เลยว่าเสือทั้ง 3 ตัวนั้นหายไปจริงหรือไม่
ในส่วนขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีข่าวว่า ไม่สามารถติดต่อ หรือประสานให้หมอสมชัย ไปให้ปากคำได้นั้น เรื่องนี้หากพนักงานสอบสวนต้องการให้หมอสมชัย ไปให้ปากคำก็ขอให้ประสานมาที่ตนได้เลย แต่ขั้นตอนการสอบสวนเพื่อที่จะให้ได้ความจริงปรากฏเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนให้ทราบข้อเท็จจริงเสียก่อนว่า เสือทั้ง 3 ตัวนั้นหายไปจริงหรือไม่ หากได้ข้อเท็จจริงแล้วเราพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลทั้งหมด
สำหรับประเด็นที่สังคมยังสับสนกันอยู่ในขณะนี้คือ ประเด็นที่ว่าเสือหายไปตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.และวันที่ 25 ธ.ค.57 มีคำถามอยู่เสมอว่า ขณะนั้นทำไมถึงไม่มีการแจ้งความ หรือทำไมหมอสมชัย จึงไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ล่าช้า
“ผมขอถามย้อนกลับว่า วัดเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากเสือ มูลนิธิฯ เป็นผู้ให้การสนับสนุนตั้งวัด ถึงวันนี้ทางวัด และมูลนิธิฯ ยังไม่มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่เลย ทั้งๆ ที่ทางวัด และมูลนิธิฯ เป็นผู้ใช้ประโยชน์จากเสือ และคำถามอีกคำถามหนึ่งคือ ในวันที่ 12 ก.พ.58 มีการอ้างว่า หมอสมชัย ยืนยันว่าเสือยังอยู่ครบ ต้องย้อนกลับไปดูให้ดี การเข้ามาตรวจเสือของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง ในวันนั้นเป็นการเข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแต่อย่างใด ซึ่งหมอสมชัย ก็ได้ให้ข้อมูลไปเพียงว่าขณะนั้นเสือที่มีอยู่มีจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นค่อยเข้ามาตรวจสอบในภายหลังเหมือนที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ ถึงตรงนี้เราก็ยืนยันว่าเสือหายไปจริง”
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (29 เม.ย.) นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง นายนเรศ ชมบุญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า นายธนะบดี เอี่ยมสุขประเสริฐ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 กาญจนบุรี (สปป.ที่ 1 ภาคกลาง) พร้อมด้วย นสพ.มาโนชญ์ ยินดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะสัตวแพทย์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
พร้อมทั้งคณะสัตวแพทย์ที่ปรึกษามูลนิธิวัดป่าฯ ร่วมตรวจสอบไม่โครชิป และตรวจรูปพรรณลายเสือโคร่ง จำนวน 147 ตัว ภายในวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ครั้งนี้มี น.ส.มยุรี อำพลจันทร์ ผู้ช่วยนักวิจัย สถานีวิจัยสัตว์ป่า เขานางรำ จ.อุทัยธานี พร้อมทีมงานเดินทางมาร่วมตรวจสอบลายเสือโคร่งด้วย
สำหรับการตรวจสอบไมโครชิปที่ฝังอยู่ในตัวเสือ รวมทั้งตรวจสอบลายเสือ คณะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกวันจนแล้วเสร็จ เหลือเพียงกลุ่มเสือโคร่งที่ดุร้าย 8 ตัวเท่านั้น ซึ่งเสือโคร่งทั้ง 8 ตัว อยู่ในบัญชีของกลาง ทั้งหมดถูกฝังไมโครชิปเอาไว้แล้ว มีเพียงเสือเพศเมีย อายุ 3 ปีเศษเพียงตัวเดียว ที่ไม่ปรากฏพบไมโครชิปที่ฝังเอาไว้ คณะสัตวแพทย์ทั้ง 3 หน่วยงาน จึงมีความเห็นพร้อมกันว่า จำเป็นจะต้องวางยาสลบ
จนในเวลาประมาณ 14.30 น. คณะสัตวแพทย์จึงเริ่มดำเนินการวางยาสลบด้วยความระมัดระวัง หลังจากที่เสือตัวดังกล่าวสลบ เจ้าหน้าที่จึงนำเครื่องสแกนไปตรวจสแกนหาไมโครชิปทั่งร่างกายแต่ไม่พบ ดังนั้น จึงนำไมโครชิปเลขที่... มาฝังเอาไว้ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนแล้วเสร็จ จึงให้ยาเสือเพื่อให้ฟื้นขึ้นมา โดยทุกขั้นตอนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งเสือ ทั้งคณะทำงานต่างปลอดภัยด้วยกันทั้งหมด
นสพ.มาโนชญ์ ยินดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้สามารถตรวจสอบไมโครชิปของเสือได้ทั้ง 147 ตัวแล้ว ในส่วนของเสือเพศเมีย ชื่อสตาร์ อายุประมาณ 3 ปีเศษ มีนิสัยค่อนข้างดุ คณะสัตวแพทย์ต้องยิงยาสลบเพื่อตรวจหาไมโครชิปอย่างละเอียด เมื่อไม่พบจึงฝังไมโครชิปเข้าไปใหม่ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งจนถึงขณะนี้ถือว่าเราเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว เสือทั้ง 147 ตัว จะอยู่ในฐานทะเบียนเสือของกลางทั้งหมด เหลือเพียงขั้นตอนการถ่ายรูปลายเสือประกอบเท่านั้น โดยขณะนี้ทีมผู้เชี่ยวชาญลายเสือจากสถานีวิจัยสัตว์ป่า เขานางรำ จ.อุทัยธานี กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าภายในวันนี้ก็คงจะแล้วเสร็จ
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น.ที่ผ่านมา นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความส่วนตัวของนายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย อดีตนายสัตวแพทย์ผู้ดูแลเสือวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ว่า กรณีตรวจเสือที่วัดป่าหลวงตาบัวฯ วิธีการตรวจเสือที่หายไป จำนวน 3 ตัว ในส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะยุ่งยาก เพราะเสือทั้ง 3 ตัวมีการลงทะเบียนเอาไว้แล้ว ซึ่งการลงทะเบียนก็คือ การกำหนดลักษณะเฉพาะตัวของเสือไว้ นั่นคือลายของเสือ ลักษณะเหมือนกับลายนิ้วมือของคนเรา
ดังนั้น เสือแต่ละตัวที่ลงทะเบียนจะมีการถ่ายภาพลายเสือของแต่ละตัวเอาไว้ แล้วกำหนดหมายเลขของเสือแต่ละตัวด้วยการฝังไมโครชิปซึ่งจะมีเลขทั้งหมด 15 หลัก
ดังนั้น เสือทั้ง 3 ตัว จะมีสิ่งที่บ่งบอกคือ ลายเฉพาะตัวของมัน และหมายเลขไมโครชิปประจำตัวของมัน ซึ่งการกำหนดแต่ละอย่างจะระบุเอาไว้ในทะเบียนว่าเสือตัวนี้ชื่ออะไร เป็นลูกของใคร เกิดเมื่อไหร่ มีการลงทะเบียนของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เอาไว้เมื่อไหร่ หากตนจำไม่ผิดเสือทั้ง 3 ตัว มีการลงทะเบียนระหว่างเดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคม 2555
โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ 2 คนคือ นายสุรพล ร่มโพธิ์เย็น และนายรัชสิต จงจรัสพร เป็นผู้มาลงทะเบียน โดยมี นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของวัดคือ นายวินัย รุ่งสว่าง มาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ดังนั้น การที่จะเจาะหาเสือทั้ง 3 ตัวหลังจากที่มีการตรวจสอบสามารถนำลายเสือเฉพาะมาเปรียบเทียบกันได้ ซึ่งจะทราบได้เลยว่าเสือทั้ง 3 ตัวนั้นหายไปจริงหรือไม่
ในส่วนขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีข่าวว่า ไม่สามารถติดต่อ หรือประสานให้หมอสมชัย ไปให้ปากคำได้นั้น เรื่องนี้หากพนักงานสอบสวนต้องการให้หมอสมชัย ไปให้ปากคำก็ขอให้ประสานมาที่ตนได้เลย แต่ขั้นตอนการสอบสวนเพื่อที่จะให้ได้ความจริงปรากฏเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนให้ทราบข้อเท็จจริงเสียก่อนว่า เสือทั้ง 3 ตัวนั้นหายไปจริงหรือไม่ หากได้ข้อเท็จจริงแล้วเราพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลทั้งหมด
สำหรับประเด็นที่สังคมยังสับสนกันอยู่ในขณะนี้คือ ประเด็นที่ว่าเสือหายไปตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.และวันที่ 25 ธ.ค.57 มีคำถามอยู่เสมอว่า ขณะนั้นทำไมถึงไม่มีการแจ้งความ หรือทำไมหมอสมชัย จึงไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ล่าช้า
“ผมขอถามย้อนกลับว่า วัดเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากเสือ มูลนิธิฯ เป็นผู้ให้การสนับสนุนตั้งวัด ถึงวันนี้ทางวัด และมูลนิธิฯ ยังไม่มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่เลย ทั้งๆ ที่ทางวัด และมูลนิธิฯ เป็นผู้ใช้ประโยชน์จากเสือ และคำถามอีกคำถามหนึ่งคือ ในวันที่ 12 ก.พ.58 มีการอ้างว่า หมอสมชัย ยืนยันว่าเสือยังอยู่ครบ ต้องย้อนกลับไปดูให้ดี การเข้ามาตรวจเสือของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง ในวันนั้นเป็นการเข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแต่อย่างใด ซึ่งหมอสมชัย ก็ได้ให้ข้อมูลไปเพียงว่าขณะนั้นเสือที่มีอยู่มีจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นค่อยเข้ามาตรวจสอบในภายหลังเหมือนที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ ถึงตรงนี้เราก็ยืนยันว่าเสือหายไปจริง”
