xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งยื่นหนังสือถึงนายกฯ ช่วยด่วนราคาร่วงหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และส่วนเกี่ยวข้องในอุตฯ กุ้งไทย เดือนร้อนหนัก ร้องเลี้ยงกุ้งไม่ได้ ราคากุ้งตกต่ำ ตบเท้ายื่นหนังสือนายกฯ ตู่ ช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุด ก่อนกอดคอกันตาย อุตฯ ล่มสลาย

วันนี้ (29 เม.ย.) เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกุ้งไทย จำนวน 9 คน นำโดย นายบรรจง นิสภวาณิชย์ ประธานสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย และนายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ดร.สมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย นายมานิตย์ จิตรชุ่ม นายกสมาคมการค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทย ตบเท้าเข้าร่วมยืนหนังสือร้องเรียนฯ ถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุด หลังประสบวิกฤตปัญหาการเลี้ยง เลี้ยงกุ้งไม่ได้ และถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาราคากุ้งตกต่ำ

ทั้งนี้ มีข้อเสนอ 4 ข้อ คือ 1) ขอให้มีโครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไมฯ ปี 2558 2) ให้เสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ส่งออก ทั้งทางตรง และทางอ้อม 3) ช่วยแก้ปัญหาโรคกุ้งตายด่วนอีเอ็มเอส (EMS) และ 4) ขอให้กุ้ง และผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าที่ได้รับการดูแลพิเศษจากภาครัฐ และให้บรรจุเรื่องกุ้งเป็นวาระแห่งชาติ

นายบรรจง นิสภวาณิชย์ ประธานสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย เปิดเผยว่า การมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด โดยผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดต่างๆ โดยพร้อมเพรียงในวันนี้ เนื่องจากพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง (ส่วนใหญ่ ร้อยละ 80 เป็นรายย่อย) เดือดร้อนหนัก นอกจากเลี้ยงกุ้งกันไม่ได้ด้วย เจอวิกฤตปัญหาเรื่องโรคที่หนักหนาสาหัสตามที่ทราบกัน ซึ่งยังแก้ไม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม ยังถูกซ้ำเติมด้วยราคากุ้งที่ตกต่ำต่อเนื่อง จนผู้เลี้ยงทั่วประเทศจำเป็นต้องออกกันมาร้องให้พิจารณาช่วยเหลือเร่งด่วนก่อนที่จะตายกันหมด

ทั้งนี้ เพราะวิกฤตครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่ออุตฯ กุ้งทั้งระบบตลอดสายห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่โรงเพาะฟักลูกกุ้ง ผู้ค้าปัจจัยการผลิตต่างๆ ฟาร์มกุ้ง โรงงานแปรรูปกุ้ง (ห้องเย็น) ผู้ส่งออก อุตสาหกรรมต่อเนื่อง และส่วนเกี่ยวข้อง (คลัสเตอร์กุ้งทั้งหมดของประเทศ) แล้ว โดยเฉพาะต่อพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง นอกจากที่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากโรคระบาดฯ ยังต้องเผชิญต่อราคากุ้งตกต่ำ (ที่มีแนวโน้มจะตกต่ำลงไปอีก) ส่วนผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปกุ้งที่ไม่มีวัตถุดิบเพื่อผลิตแปรรูปเพียงพอต้องลดกำลังผลิต ปิดโรงงาน ผู้ส่งออกไม่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศด้วยไม่มั่นใจว่าจะได้ของ เป็นต้น

ดร.สมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า วิกฤตปัญหานี้ทำให้ไทยสูญเสียความเป็นผู้นำการส่งออกกุ้งให้แก่ประเทศคู่แข่งที่สามารถผลิตกุ้งได้ เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย ประเทศกลุ่มละตินอเมริกา และอื่นๆ แล้ว ทั้งที่ผ่านมา สินค้ากุ้งของไทยได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัยจากผู้บริโภคอย่างมาก ครองตลาดเป็นที่ 1 ในตลาดที่สำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ มาโดยตลอด หากไม่ได้รับการแก้ไขเร่งด่วนทันการณ์ไทยจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน สูญเสียตลาดที่ทำให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยอาจถึงขั้นล่มสลายได้

จากปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ทุกภาคส่วน ได้แก่ สมาคมสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย สมาคมกุ้งตะวันออกไทย สมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมผู้ค้าปัจจัยการผลิต สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ฯลฯ มีการประชุมหารือเพี่อหาแนวทางการแก้ปัญหาฯ ร่วมกัน ได้ข้อสรุปเพื่อนำเสนอ ฯพณฯ พิจารณาช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุด ดังนี้

1.ขอให้มี “โครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไมฯ ปี 2558” เพื่อแก้ไขวิกฤตปัญหา ราคากุ้งตกต่ำ โดยให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) กระทรวงพาณิชย์ อนุมัติงบประมาณเข้าแทรกแซงราคา โดยให้รัฐรับชดเชยราคาส่วนต่างฯ (ให้เริ่มโครงการได้เร็วที่สุดภายใน 1 เดือน)

2.เสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ส่งออกทั้งทางตรง และทางอ้อม เช่น ให้สินเชื่อปลอดดอกเบี้ย ดอกเบี้ยพิเศษ ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ เพิ่มวงเงินสินเชื่อ และหรืออื่นๆ รวมถึงการส่งเสริมการส่งออกเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยให้รัฐบริหารจัดการให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เป็นต้น

3.แก้ปัญหาโรคกุ้งตายด่วนอีเอ็มเอส (EMS) ให้กรมประมง และหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งหาวิธีการจัดการเลี้ยงที่เหมาะสมต่อพื้นที่ โดยขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่ และ 4.ขอให้กุ้ง และผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าที่ได้รับการดูแลพิเศษจากภาครัฐ และให้บรรจุเรื่องกุ้งเป็นวาระแห่งชาติ ประธานสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย กล่าว

“กุ้ง เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าส่งออกสำคัญที่ใช้วัตถุดิบในประเทศกว่าร้อยละ 90 ในการผลิต ที่ทำรายได้เข้าประเทศปีละมหาศาลมาอย่างต่อเนื่อง เคยถึงปีละกว่าแสนล้านบาท สร้างงานอาชีพให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยง อุตสาหกรรมต่อเนื่อง ส่วนเกี่ยวข้อง และครอบครัวจำนวนมาก นอกจากข้อเสนอข้างต้นที่จำเป็นเร่งด่วนแล้ว

พวกเราอยากให้มีผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลที่มีอำนาจตัดสินใจดำเนินการต่างๆ มาเป็นผู้นำมากำกับดูแลบริหารจัดการเป็นการเฉพาะ เมื่อมีเรื่องสำคัญเร่งด่วนสามารถพิจารณาดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาได้ทันที ทันการณ์ และเกิดประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ที่สำคัญอยากให้สินค้ากุ้งได้รับการดูแลพิเศษจากรัฐ รัฐเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง และช่วยปกป้องอุตสาหกรรมกุ้งไทยอย่างเต็มที่” นายบรรจง กล่าวทิ้งท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น